จบมหากาพย์! ครม.ไฟเขียวขยายสัมปทานทางด่วนให้ BEM 15 ปี 8 เดือน แลกยุติข้อพิพาททั้งหมด
18 ก.พ. 2563, 19:39
วันนี้ ( 18 ก.พ.63 ) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแนวทางยุติข้อพิพาททางด่วนระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM โดยให้มีการขยายอายุสัญญาสัมปทานออกไปอีก 15 ปี 8 เดือน ซึ่งในสัญญาระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน A ช่วงรัชดาฯ-พระราม9 ส่วน B ช่วงพญาไท-บางโคล่ และส่วน C ช่วงแจ้งวัฒนะ-รัชดาฯ จะสิ้นสุดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นสิ้นสุด 31 ตุลาคม 2578 ส่วนทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D ช่วงบางปะอิน-ปากเกร็ด จะสิ้นสุดวันที่ 22 เมษายน 2570 และโครงการทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด (C+) ที่จะสิ้นสุด 27 กันยายน 2569 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ตุลาคม 2578 เช่นกัน โดยมีเงื่อนไขให้ยุติข้อพิพาทระหว่างกันและถอนฟ้องคดี 17 คดีทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าหนี้ 78,908 ล้านบาท
ขณะที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า สาเหตุที่จำเป็นต้องเร่งพิจารณาขยายอายุสัมปทานให้ BEM เนื่องจากจะสิ้นสุดอายุสัมปทานวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ หากปล่อยให้หมดอายุสัมปทานจะต้องมีการประมูลหาผู้ให้บริการรายใหม่ไม่สามารถทำสัญญาขยายอายุสัมปทานได้ ขณะที่มูลค่าหนี้ที่จะต้องจ่ายให้กับ BEM ไม่ได้ยุติ และดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทุกวัน หากปล่อยให้หมดอายุสัมปทานตามเดิม รัฐจะต้องจ่ายเงินให้กับ BEM รวมเงินต้นและดอกเบี้ย 300,000 ล้านบาท
โดยนายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ กทพ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การระงับข้อพิพาทครั้งนี้ยังกำหนดการจ่ายผลตอบแทนตามเดิม คือ แบ่งสัดส่วนรายได้ให้ กทพ. 60% และ 40% ให้ BEM ในสัญญา A B C และ D ส่วนสัญญา C+ BEM ได้ค่าตอบแทนทั้ง 100% และตามแนวทางการขยายอายุสัญญาสัมปทานได้กำหนดให้ BEM สามารถปรับขึ้นค่าผ่านทางได้ปีละ 1 บาท แต่จะปรับขึ้นได้เพียงครั้งเดียวคือปี 2571 หรือขึ้นค่าผ่านทาง 10 บาท ส่วนอีก 5 ปี 8 เดือนไม่ให้ปรับขึ้น
ที่มา : แนวหน้า