ดีเดย์วันต่อต้านยาเสพติดโลก นครพนมสนธิกำลังจับ-ตรวจ-ยึด เครือข่ายยานรก พร้อมผู้ต้องหา 3 ราย (คลิป)
26 มิ.ย. 2562, 13:50
วันที่ 26 มิถุนายน 62 เวลา 06.00 น. พ.อ.ตระกูล ไทยสมัคร ฝ่ายเสนาธิการ บก.ควบคุม กองทัพภาคที่ 2 พ.ต.อดิเรก วสันต์สกุล ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายยุทธการและการข่าว กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พ.ต.ท.ธัชกร แก้วกาหลง นายตำรวจศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมคะเน ไตรยะสุทธิ์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.สส.4 บก.สส.ภ.4 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน กก.สส.4 และสืบสวนสอบสวน ภ.จว.นครพนม โดย พ.ต.อ.ศรีสุพล รัดสีทา ผกก. (สอบสวน) และ ส.อ.ยุทธยา พรหมภัก ร้อย ทพ.2102 กรม ทพ.21 ร่วมปฏิบัติการจู่โจมในครั้งนี้
ซึ่งเป็นการเข้าตรวจค้นพร้อมกันในพื้นที่ 3 จังหวัด จำนวน 6 จุด คือ1.นครพนม 2.บึงกาฬ และ 3.นนทบุรี โดยเป็นกลุ่มเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติด สำหรับจังหวัดนครพนม เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าจู่โจมบ้านเลขที่ 3 หมู่ 9 บ้านชะโนดน้อย ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งมีชื่อ น.ส.วรกาล (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี เป็นเจ้าของบ้าน และทำงานเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง ค้นพบสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ เกือบ 20 เล่ม และมีเงินหมุนเวียนเข้าออกจำนวนมาก โดย น.ส.วรกาล อ้างว่าเงินส่วนใหญ่ได้จากแม่ที่ไปทำงานอยู่ประเทศเกาหลีใต้ส่งมา บ้านหลังนี้ก็เป็นเงินของแม่ทั้งนั้น ส่วนการที่มีเงินหมุนเวียนหลายบัญชีเพราะต้องโอนเงินใช้หนี้เจ้าหนี้ ที่เปิดบัญชีธนาคารนั้น หรือเป็นบัญชีในกองทุนที่กู้ยืมในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ถามว่า น.ส.วรกาล มีชื่อครอบครองรถยนต์หลายคัน ก็อ้างว่าญาติมาขอร้องให้ใช้ชื่อออกรถเท่านั้น โดยส่วนตัวใช้รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า HR-V สีขาว เพียงคันเดียว ขณะเดียวกันมีเงินเข้ามาในบัญชีช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา จำนวน 300,000 บาท ซึ่ง น.ส.วรกาล ตอบจำไม่ได้ว่าโอนมาจากไหน
เจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกการตรวจค้นและยึดทรัพย์สินบางส่วนเพื่อตรวจสอบจากบ้านเลขที่ดังกล่าวเสร็จเรียบร้อย ก็ให้สามีของ น.ส.วรกาล พาไปยังบ้านเลขที่ 97 หมู่ 9 บ้านชะโนดน้อย ซึ่งปลูกติดกัน โดยเป็นบ้านของ น.ส.วิลานี สีหาเลิศ หรือเปรี้ยว อายุ 30 ปี และเป็นน้องสาวของ น.ส.วรกาล เพราะขณะเข้าตรวจไม่มีใครพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ จึงใช้ค้อนทุบกุญแจหลังบ้านเปิดเข้าไป โดยภายในบ้านมีสภาพเหมือนไม่มีคนอยู่ แต่เปิด WiFi อินเตอร์เน็ตทิ้งไว้ ในห้องนอนพบการรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย มีทั้งขวดนมเด็ก และตู้เซฟอีก 1 ใบ ตรวจค้นในตู้โชว์พบสมุดบัญชีเงินฝากและเอกสารที่เกี่ยวพันกับครอบครัวของ น.ส.วรกาล อีกจำนวนมาก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ผลจากการจู่โจมพร้อมกัน 3 จังหวัด 6 จุด เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว น.ส.วิลานี พุทธา ผู้ต้องหาตามหมายจับได้ที่บ้านพักในจังหวัดบึงกาฬ ด้านจังหวัดนนทบุรีก็จับกุมตัวนายดาวเรือง เวคำพันธุ์ และ น.ส.สาวิตรา ขันติย์วงศ์ ในบ้านพักเขต อ.บางบัวทอง และจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสามมาสอบสวนขยายผลที่จังหวัดนครพนม
จากแหล่งข่าวชุดตรวจยึดจับกุมเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ ได้หลายคน แต่ผู้ต้องหาเหล่านั้นไม่ยอมเผยชื่อผู้จ้างวาน เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้วิธีแกะรอยตามเบอร์โทรศัพท์และการโอนเงินต่างๆ มาผนวกกัน จนทราบว่าขบวนการนี้เป็นเครือข่ายใหญ่เชื่อมโยงกัน โดยมี น.ส.วิลานี หรือเปรี้ยวเป็นผู้ประสาน จึงสืบสวนสอบสวนทางลับเป็นเวลานาน
กระทั่งวันที่ 26 มกราคม 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ศอ.ปส.ภ.4 รับแจ้งจากสายลับว่ากลุ่มนักค้ายาเสพติด จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้าไปพื้นที่ตอนใน ในช่วงเช้ามืดวันที่ 27 มกราคม 2562 โดยใช้เส้นทางหลวงสาย นครพนม – ท่าอุเทน ซึ่งสายลับแจ้งเพียงว่ากลุ่มผู้กระทำผิดใช้รถยนต์ปิคอัพสีแดงสภาพเก่าในการกระทำผิด หลังได้รับแจ้ง รายงานผู้บังคับบัญชาและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสกัดกั้น จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2562 เวลาประมาณ 04.00 น. พบรถต้องสงสัย ลักษณะตรงตามที่สายลับแจ้งวิ่งมาถึงสามแยกบ้านท่าควาย จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจและส่งสัญญาณให้หยุดรถ แต่รถคันต้องสงสัยกลับเร่งเครื่องยนต์หลบหนีมุ่งหน้าเข้ามาทางตัวเมืองนครพนม เจ้าพนักงานตำรวจจึงติดตามมาจนถึงท้ายซอยธานีสพสันต์ พบรถปิคอัพ นิสสัน สีแดง ทะเบียน บง 9935 นครพนม จอดอยู่กลางทุ่งนา ส่วนคนร้ายวิ่งหลบหนีไป พบเพียงรองเท้าของคนร้ายอยู่ที่พื้นดิน ใกล้กับรถของกลาง ตรวจค้นที่ท้ายรถปิคอัพ พบกัญชาแห้งอัดแท่ง 10 กระสอบ ตรวจนับได้ 400 แท่ง / กิโลกรัม ตรวจยึดของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินการตามกฎหมาย
ก่อนจะสืบสวนขยายผลจนทราบว่า 1 ในคนร้ายที่ร่วมกันลักลอบขนกัญชาอัดแท่งของกลางดังกล่าวนั้นมี นายกมลศักดิ์ ประพัด อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่8 ต.หนองยอง อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ เป็นคนร้ายรายนี้ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ และเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา สามารถจับกุมตัว นายกมลศักดิ์ ผู้ต้องหาได้ ขณะหลบหนีมาทำงานที่ร้านขายหิน จ.นนทบุรี เบื้องต้น นายกมลศักดิ์ ให้การรับสารภาพยอมรับว่าเป็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวจริง แต่อ้างว่าไม่ได้เป็นเจ้าของยาเสพติด เพียงแต่รับหน้าที่เป็นผู้ขับรถนำของกลางไปส่งให้กับลูกค้าตามคำสั่งของเจ้าของกัญชาอัดแท่งของกลาง เพื่อเป็นการทดแทนบุญคุณที่เคยให้การช่วยเหลือที่ผ่านๆ มา และขอไม่ให้การซัดทอดถึงเจ้าของกัญชาของกลางรายนี้ว่าเป็นใคร
ประกอบกับชุดสืบสวนสอบสวนทราบว่า นายกมลศักดิ์ ผู้ต้องหาเคยมาที่บ้านชะโนดน้อย ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ กว่าจะครบถ้วน ต้องใช้เวลานานพอสมควร หลังจากนั้นจึงวางแผนเข้าจู่โจมตรวจยึดจับกุมดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้สามีของ น.ส.วิลานี อดีตเป็น อบต.แห่งหนึ่ง เคยถูกจับกุมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และรถปิกอัพที่ใช้ขนกัญชาเมื่อเดือน ม.ค. พบว่า น.ส.วิลานี เป็นผู้ติดต่อว่าจ้าง ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลสืบสวนสอบสวนจากเอกสาร และสัญญาณโทรศัพท์