แม่เครียดจัด! "ลูกสาววัย7ขวบ" บ่นอยากลาโลก วอนสื่อออนไลน์หยุดแชร์ข่าว
20 ก.พ. 2563, 14:59
จากกรณีเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นายโชค (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี ชาวนครราชสีมา พาเด็กหญิงนิ่ม (นามสมมุติ) อายุ 7 ปี ลูกสาว เรียนอยู่ โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ อำเภอครบุรี เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิประวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอความเป็นธรรมให้ลูกสาว ที่ถูกรุ่นพี่ 3 คนในโรงเรียนเดียว ล่วงละเมิดทางเพศในห้องน้ำ หลังโรงเรียนจนสำเร็จความใคร่ และมีการถ่ายคลิปเผยแพร่ไปในโซเชียล ก่อนที่จะลบในเวลาต่อมา โดยเหตุการณ์เกิดกับลูกสาวตนตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังญาติเยาวชนหนึ่งใน 3 คนที่ก่อเหตุเผยอยากฆ่าตัวตายขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านเด็กชายวัย 13 ปี พี่ชายของน้องสาววัย 7 ขวบ ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ เปิดเผยว่า ตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยิ่งดูคลิปที่รุ่นพี่ทั้ง 3 คน ทำอนาจารกับน้องสาวยิ่งทำให้รู้สึกปวดหัวใจ อยากให้ออกมารับผิดชอบ ไม่ใช่ใช้เงินในการเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อที่จะให้คู่กรณี ยอมความ ซึ่งครอบครัวก็รู้จักเสียใจและรับไม่ได้ และไม่อยากที่จะเรียนโรงเรียนแห่งนี้อีกต่อไปแล้ว ในส่วนของแม่ ที่ไปรับเงิน จำนวน 90,000 บาทจากคู่กรณีทั้ง 3 คน และมีการแบ่งจ่ายให้ยาย 10,000 บาท ตนรู้สึกเสียใจว่าทำไมแม่ถึงทำกับลูกแท้ๆได้อย่างนี้ และอยากให้แม่กลับมาชี้แจงสังคม และครอบครัวของตนเอง ไม่ใช่หนีหน้าไปพร้อมเงินจำนวนดังกล่าว
มารดาเด็กนักเรียนชาย ป.4 เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ได้มีคุณครูมาแจ้ง ความรู้สึกแรกรู้สึกตกใจและไม่เชื่อว่าลูกจะมีพฤติกรรมแบบนี้ เพราะเด็กกลุ่มนี้ก็รู้จักกันและกินเล่นกันประจำ หลังจากที่พูดคุยกับลูกก็สำนักผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากดูคลิปจากมือถือ หลังจากนั้นได้พูดคุยกับแม่เด็กผู้เสียหาย ซึ่งตกลงจะจ่าย คนละ 5 หมื่นบาท รวม 3 รายเป็นเงิน 1.5 แสนบาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีกับลูกชาย หลังจากมีการพูดคุยรอบที่ 2 ได้สรุปให้รวมเงินจ่ายเพียง 7 หมื่นบาท หลังจากนั้นได้นำเงินมอบให้กับแม่เด็ก ตนก็คิดว่าจบ แต่ก็มาพบว่าพ่อเด็กมีการแจ้งความดำเนินคดีกับคนก่อเหตุทั้งหมด ตอนนี้สภาพจิตใจลูกย้ำแย่เป็นอย่างมาก และบอกอยากจะฆ่าตัวตาย ตนก็ต้องให้ญาติเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพราะสงสารลูก ส่วนการดำเนินคดีก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ และอยากให้ครอบครัวเด็กเห็นใจด้วยเพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ขณะนี้ได้มีการยึดโทรศัพท์ไม่ให้เล่นแล้ว เพราะไม่อยากให้ลูกรับรู้เรื่องราวต่างๆ กลัวทนกระแสสังคมไม่ได้
นางอรินท์มาศ กาแก้ว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากทางพ่อได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด และต้องเชิญสหวิชาชีพและเจ้าหน้าที่จิตแพทย์ รพ.ครบุรี ในการสอบปากคำ เด็ก เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากคู่กรณีเป็นเยาวชนทั้งคู่ หลังจากนั้นจะมีการประเมินสถานการณ์ว่าครอบครัวสามารถที่จะเลี้ยงเด็กต่อได้หรือไม่ หากสามารถที่จะเลี้ยงได้ทางหน่วยงานจะมีประเมินสถานการณ์ทุกเดือน แต่ในทางกลับกันหากไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูได้ ก็จะมีหน่วยงานที่จะเข้ามาควบคุมดูแลต่อไป ส่วนการเจรจาไกล่เกลี่ยของผู้เสียหาย ที่มีการจ่ายเงินรายละจำนวน 30,000 บาท จำนวน 3 ราย รวมเป็นเงิน 90,000 บาทนั้น ไม่เป็นความจริง การสอบถามเพราะว่ามีการจ่ายเงินเพียงรายละ 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 60,000 บาท ซึ่งการจ่ายเงินเป็นการตกลงของคู่กรณีไม่เกี่ยวกับการดำเนินคดี