ไม่กลัวนรก ! "แก๊งมิจฉาชีพ" ตระเวนหลอกขายสบู่จับฉลากก้อนละกว่าสองพัน แก่พระชราตามวัด
21 ก.พ. 2563, 08:45
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 20 ก.พ. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ต.ปรีชา กองเทียม รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.บางจัก อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ได้รับการประสานจากศูนย์วิทยุ 191 หลังจากได้รับแจ้งจากพระครูวินัยธร การันต์ จันทวังโส เจ้าอาวาส วัดโพธิ์เอนสิทธาราม หมู่ที่ 6 ตำบลคลองขนาก อำเภอวิเศษชัยชาญ ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพทั้งชายและหญิง จำนวน 4 – 5 คน ใช้รถยนต์กระบะไม่ทราบยี่ห้อ และรุ่น เข้ามาหลอกขายสบู่และสินค้าปลอมให้กับพระลูกวัด หลังจากเกิดเหตุได้พากันขึ้นรถยนต์กระบะหลบหนีไป
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน หลังจากได้รับแจ้งได้ออกตรวจสอบรถยนต์และบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่ ตามวัดต่าง ๆ และเขตรอยต่อ แต่ก็ยังไร้วี่แววของกลุ่มมิจฉาชีพที่ก่อเหตุหลอกขายสินค้า
ด้านพระสนิท สักวาโท อายุ 67 ปี พระลูกวัดโพธิ์เอน เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุอาตมาพึ่งจะกลับมาจากการถอนฟัน จึงได้มานอนพักฟื้นอยู่ในกุฏิ ระหว่างนั้นได้มีชายรูปร่างหน้าตาดี ผิวขาว อ้างตัวว่าเป็นนักศึกษาฝึกงานให้ช่วยซื้อสินค้า ถ้ายอดขายมากตนเองก็จะได้คะแนนในการฝึกงาน โดยเข้ามาพูดคุยเสนอขายสินค้าเป็นสบู่ที่บรรจุอยู่ในกล่องสีดำ ในราคาก้อนละ 1,999 บาท โดยบอกว่าในกล่องสบู่จะมีรางวัลเป็นทีวี ตู้เย็น โทรศัพท์มือถือ นาฬิกา และของรางวัลอีกมากมาย หากเปิดได้สิ่งใดก็จะได้ไปเลย หากรางวัลที่มีขนาดใหญ่จะทำการจัดส่งให้ทีหลัง ซึ่งในตอนแรกทางอาตมาก็ไม่ได้หลงเชื่อ แต่ทางกลุ่มมิจฉาชีพใช้วิธีการตื้อพูดจาจนรำคาญ ประกอบกับอาตมาพึ่งจะถอนฟันมาต้องการจะพักผ่อน จึงได้หยิบเงินในย่ามให้ไปประมาณ 2,000 บาท โดยทางมิจฉาชีพได้แกะกล่องสบู่ออกเก็บไว้ข้างในกล่องมีฉลากเป็นรูปนาฬิกา จึงได้นำนาฬิกาเรือนทองยี่ห้อดังบรรจุอยู่ในกล่องกำมะหยี่สีแดงมาให้ จากนั้นได้อ้อนวอนให้ซื้อเพิ่มอีก พร้อมกับแกะกล่องสบู่อีก 2 ก้อน ได้เตาแก๊สปิกนิก กับตู้เย็น แต่อาตมาบอกไปว่าไม่เอาและขอพักผ่อนจึงกลับออกไป หลังจากนั้นได้ออกไปหาเจ้าอาวาสแจ้งว่าได้หลบหนีไปแล้ว
ส่วนทางด้านพระครูวินัยธร เปิดเผยว่า ขณะที่อาตมาอยู่บนศาลาการเปรียญหน้ากุฏิเจ้าอาวาส ได้มีกลุ่มมิจฉาชีพประมาณ 3 – 4 คน เป็นผู้หญิง 1 คน ชาย 3 คน เดินขึ้นมาเสนอขายสินค้า และคาดว่ายังมีอีก 1 คน ที่รออยู่ในรถ อาตมาเห็นว่าเป็นผู้หญิงจึงได้ให้นั่งพูดคุยอยู่ในศาลาการเปรียญ โดยหญิงสาวคนดังกล่าวได้มาพูดเสนอขายสินค้า ส่วนผู้ชายได้เดินไปที่กุฏิของ พระสนิท ซึ่งทางอาตมาได้ปฏิเสธไป หลังจากที่กลุ่มมิจฉาชีพออกไปได้ไม่ถึง 5 นาที พระสนิท ได้นำของทั้งหมดออกมาบอกว่าถูกหลอกให้ซื้อสินค้า อาตมาจึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งศูนย์ 191 ให้ประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ออกตรวจสอบ แต่ก็ไร้วี่แววของกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะหลบหนีเข้าไปในเขตของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือจังหวัดสุพรรณบุรี โดยทางอาตมาก็พอที่จะทราบจากข่าวสารมาบ้างว่า มีแก๊งมิจฉาชีพหลอกขายสินค้าก่อนเหตุในพื้นที่ในจังหวัดนครนายก แต่ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุถึงจังหวัดอ่างทอง โดยจะก่อเหตุกับพระชรา ซึ่งทางวัดโพธิ์เอน ได้ทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ แต่ทางอาตมาจำรหัสในการเปิดดูภาพในกล้องไม่ได้ จึงได้โทรศัพท์ไปหาช่างที่ทำการติดตั้งให้มาช่วยปลดล็อค โดยทางช่างแจ้งว่าติดงานติดตั้งกล้องวงจรปิดอยู่ที่ต่างจังหวัด หากกลับมาแล้วจะมาดำเนินการปลดรหัสให้ เพื่อนำภาพของกลุ่มมิจฉาชีพทั้งหมด นำไปให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป