"รฟท." รับผิด เหตุขบวนรถไฟชนกัน พร้อมทยอยส่งผู้โดยสารตกค้างกลับ
25 ก.พ. 2563, 09:33
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เวลา 01.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 ตั้งแต่ช่วงค่ำของคืนที่ผ่านมา นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายฐากูร อินทชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถไฟ ในฐานะผู้แทน รฟท. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตั้งโต๊ะแถลงสรุปการช่วยเหลือผู้โดยสารจากอุบัติเหตุขบวนรถไฟชนกันที่สถานีปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหลายรายนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลปากท่อ ส่วนผู้โดยสารที่ตกค้างกว่า 200 คน ได้มาพักอาศัยอยู่ที่สถานีตำรวจภูธรปากท่อเป็นการชั่วคราว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ, เจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 16 และจิตอาสาพระราชทาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคอยดูแลอำนวยความสะดวก ทั้งด้านอาหาร และเครื่องดื่มบริการฟรี
นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัด เปิดเผยการช่วยเหลือว่า อุบัติเหตุรถไฟชนกันมีหัวรถจักรโดยสาร และรถบรรทุกสิ่งของและโบกี้ที่อยู่ถัดจากหัวรถจักรตกราง มีผู้ได้รับบาดเจ็บแบ่งเป็นพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นผู้ควบคุมรถ และเจ้าหน้าที่รถจำนวน 4 นาย เป็นพนักงานประจำรถสินค้า 2 นาย และพนักงานรถโดยสาร 2 นาย มีพนักงานประจำผู้ขับขี่รถโดยสารอยู่ได้รับบาดเจ็บค่อนข้างเยอะพอสมควร แต่อาการไม่น่าวิตก ยืนยันไม่มีผู้เสียชีวิต โดยผู้บาดเจ็บที่เป็นพนักงานขับรถนั้น ทางโรงพยาบาลปากท่อ ได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลราชบุรี เพื่อตรวจรักษาด้วยเครื่องมือทันสมัย นอกจากนั้นจะเป็นผู้ป่วยที่บาดเจ็บไม่มากนัก รวมทั้งผู้ป่วยเล็กน้อย มีผู้บาดเจ็บที่เป็นผู้โดยสารจำนวน 28 ราย บางส่วนอยู่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลปากท่อ รอดูอาการอยู่ มีการทำแผลเล็กน้อยและจะกลับมาพักอยู่ที่สถานีตำรวจปากท่อ ส่วนผู้โดยสารที่สมัครใจกลับ กทม. จำนวน 77 ราย บางส่วนประมาณ 26 ราย จะไปหัวหิน ทางมณฑลทหารบกที่ 16 ได้จัดรถบัสทหารไปส่งที่หมาย สำหรับผู้โดยสารส่วนที่เหลือเป็นส่วนมากประมาณ 155 ราย ประสงค์ที่จะพักรอที่ อ.ปากท่อ เพื่อเดินทางล่องใต้ในวันพรุ่งนี้นั้น ทาง รฟท.และขนส่งจังหวัดจะจัดรถโดยสารนำส่ง อ.หาดใหญ่ในเช้าวันพรุ่งนี้ ซึ่งเหล่ากาชาดจังหวัดจะดูแลจัดอาหารเช้ามาบริการ
ด้านนายฐากูร อินทชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถไฟ ในฐานะผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย ทาง รฟท. กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับอุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่มากแต่ก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อการเดินขบวนรถไฟ โดยขบวนรถที่ออกจากกรุงเทพฯ จะไปขึ้นรถขบวนพิเศษที่ 37 ที่จอดอยู่ที่สถานีปากท่อจะทำการขนย้ายผู้โดยสารตามไปที่ต้นทางที่ผู้โดยสารขึ้นมา ส่วนตั๋วรถไฟสามารถนำไปคืนได้ที่สถานีที่ผู้โดยสารขึ้นมาในอัตราเต็มราคา และสามารถสำรองที่นั่งในวันถัดไปได้ ส่วนเหตุที่ไม่สามารถเดินขบวนรถต่อไปได้นั้น ประมาณการว่าจะซ่อมรถแล้วเสร็จประมาณตี 3 และยังไม่ทราบว่าช่วงระหว่างตี 3 นี้ จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ซึ่งอาจมีเหตุขัดข้องทำให้ขบวนรถเดินผ่านไปได้ ดังนั้นจึงไม่อยากให้ผู้โดยสารมาเสี่ยงพักรออยู่ที่ปลายทางต่างๆ ไม่ใช่ขบวนรถด่วนที่ 37 เท่านั้น ขบวนรถต่างๆ ที่ออกจากกรุงเทพฯ มา ได้แก่ขบวนรถกรุงเทพฯ – ตรัง, ขบวนรถเร็วกรุงเทพฯ – ยะลา, ขบวนรถเร็วกรุงเทพฯ - กันตัง, ขบวนรถเร็วกรุงเทพฯ – นครศรีธรรมราช, รถด่วนกรุงเทพฯ – นครศรีธรรมราช และขบวนรถด่วนอิสลามปรับอากาศกรุงเทพฯ – สุราษฎร์ธานีและยะลา และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องงดเดินขบวนรถและเปลี่ยนเดินทางไปหลังตี 3 ส่วนรถที่ออกจากกรุงเทพฯมาแล้วก็มีหลายขบวนด้วยกัน ส่วนขบวนรถล่องเข้ากรุงเทพฯ จากต่างจังหวัดมาในคืนนี้ คาดว่าจะผ่านจุดเกิดเหตุได้หลังจากประมาณตี 3 ไปแล้ว อาจมีความล่าช้าในขบวนรถเร็วจากนครศรีธรรมราชเป็นขบวนแรก แต่จะอยู่ในช่วงที่สามารถพักรอได้ ซึ่งทางรถจักรที่จะลากตัวรถด่วนพิเศษที่ 37 ได้มาถึงพื้นที่สถานีปากท่อแล้ว โดยผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับไปที่ต้นทางกรุงเทพฯ ขอให้ขึ้นขบวนรถได้
ส่วนค่ารักษาพยาบาลผู้ที่บาดเจ็บที่เกิดขึ้นทาง รฟท.จะรับผิดชอบทั้งหมด ขอให้แจ้งความประสงค์ได้ที่สถานีต้นทางที่ผู้โดยสารจะลง นำตั๋วไปคืนพร้อมแจ้งยอดค่ารักษาพยาบาลได้ หากบางคนได้สำรองจ่ายไปก่อนหน้านี้ก็ให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่สถานีปลายทางที่ผู้โดยสารลง ทาง รฟท.ขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ 16 ได้นำรถบรรทุก 6 ล้อ พร้อมจิตอาสาพระราชทาน มาช่วยกันอำนวยความสะดวกดูแลด้านอาหารและนำผู้โดยสารขึ้นรถพาไปพักค้างที่โรงแรมในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อรอเตรียมเดินทางกลับภูมิลำเนา หลังจากที่มีการกู้โบกี้รถไฟบริเวณจุดเส้นทางที่เกิดเหตุ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานเท่าใดในการดำเนินการ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่รถไฟกำลังเร่งทำงานกู้ซากออกจากรางเพื่อเคลียร์เส้นทางเดินรถ ล่าสุดเช้านี้รถไฟสามารถวิ่งได้ตามปกติแล้ว