ระทึก!! ไฟไหม้ "ไร่อ้อย" หวิดลุกลามเข้าโรงเรียนบ้านเนินไพร จนท.ระดมฉีดน้ำควบคุมเพลิงกันวุ่น คาดสาเหตุเกิดจากการเผาวัชพืช
27 ก.พ. 2563, 08:54
วันที่ 27 ก.พ. 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ไร่อ้อย ในพื้นที่บ้านเนินไพร หมู่ 3 ตำบลด่านมะขามเตี้ย อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี และกำลังจะลุกลามเข้าโรงเรียนบ้านเนินไพร นายเอกวัฒน์ สุขพิบูลย์ นักการภารโรงของโรงเรียนฯ จึงรีบแจ้งไปยัง สภ.ด่านมะขามเตี้ย เพื่อประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลด่านมะขามเตี้ย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง ให้มาช่วยระงับเหตุ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าเปลวเพลิงลุกโชนพวยพุ่งแดงฉานเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับขณะเกิดเหตุมีลมพัดแรง ทำให้ไฟลุกลามไปอย่างรวดเร็ว การควบคุมเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยเจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดกั้นเปลวเพลิงไม่ให้ลุกลามไปเข้าไปในโรงเรียน เนื่องจากขณะนั้นเปลวเพลิงได้โอบล้อมเข้าใกล้โรงเรียนทุกขณะ โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของ อบต.ด่านมะขามเตี้ย เทศบาลตำบลด่านมะขามเตี้ย และ อบต.หนองไผ่ พร้อมรถดับเพลิงรวม 4 คัน ช่วยกันเร่งระดมฉีดน้ำกันอย่างเต็มที่ ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด แต่จนถึงขณะนี้เพลิงก็ยังไม่สงบ โดยเจ้าหน้าที่ยังคงต้องฉีดน้ำเลี้ยงไว้อย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ไฟขยายวงกว้างออกไปอีก โดยมีบุคลากรของโรงเรียน รวมทั้งชาวบ้านกันทำแนวกันไฟและเฝ้าระวังเหตุ เพราะเกรงว่าไฟจะปะทุขึ้นมาอีกและอาจจะลุกลามเข้าโรงเรียนได้ ซึ่งจะสร้างความเสียหายอย่างมาก
นายเอกวัฒน์ สุขพิบูลย์ นักการภารโรงของโรงเรียนฯ ซึ่งเฝ้าระวังเหตุและอยู่ในเหตุการณ์จนเหตุการณ์สงบ เผยว่า เหตุเพลิงไหม้เริ่มเกิดขึ้นเมื่อประมาณบ่าย 2 โมง จากการจุดไฟเผาวัชพืชในไร่นา ก่อนที่ไฟจะเริ่มลุกลามจากบนภูเขาลงมาทางด้านหลังของโรงเรียนบ้านเนินไพร ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นทุกปี โดยไฟได้ลามมาทางหลังโรงเรียนบริเวณห้องเรียนของชั้นอนุบาล ตนเห็นท่าไม่ดี จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ด่านมะขามเตี้ย ให้ประสานรถดับเพลิงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าระงับเหตุก่อนที่ไฟจะลามเข้าตัวอาคารและสร้างความเสียหายให้แก่โรงเรียน
ขณะที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาการจุดไฟเผาไร่อ้อยและเผาวัชพืชเพื่อเตรียมแปลงเกษตรอย่างจริงจัง เพราะส่งผลกระทบในหลายๆ ด้าน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและของรัฐ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของชาวบ้านอีกด้วย
สำหรับในพื้นที่อำเภอไทรโยค ทองผาภูมิ และสังขละบุรี โดยครูโรงเรียนสมเด็จพระปิยมหาราชรมณียเขต ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า ‘นภัสวรรณ ยะปะเพ’ เป็นภาพของตนเองและเด็กนักเรียนสวมหน้ากากอนามัย และสภาพบรรยากาศในพื้นที่ที่เกิดจากหมอกควันพิษจากไฟป่า ที่ทำให้แสบตา แสบจมูก และเจ็บคอ ซึ่งครูและนักเรียนที่อยู่ที่อาคาร 2 ชั้น 4 ของโรงเรียนดังกล่าว ระบุว่า อาคาร 2 ชั้น 4 วิกฤต # ควัน # ดูจากชั้น 4 แล้วมองออกไป เต็มไปด้วยควันที่ปกคลุมพื้นที่ แท้ที่จริงแล้วตรงที่เรายืนอยู่นี้ก็เป็นเหมือนที่เรามองออกไปนะลูก ต้องสู้นะเด็กๆ ป้องกันตัวเองเอาไว้ก่อน เดี๋ยวสุขภาพแย่ ทั้งครูทั้งเด็ก นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า ปีนี้วิกฤตมาก ที่นี่ไทรโยคใหญ่ #ขอร้องอย่าเผา #ขอร้องผู้มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยดับไฟให้ด้วยจ้า 3 วันแล้วที่วิกฤต #ช่วยด้วยค่ะ
ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่รู้สึกวิตกกังวลกับสถานการณ์ บางความเห็นระบุว่า “คุณภาพชีวิตย่ำแย่ไปตามๆกัน คนเผาก็เผากันไป