เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



รถไอติมเป็นเหตุ !! ตัดหน้า "รถพ่วง" ต้องเบรกกะทันหัน รถพ่วงวิ่งสวนทางพุ่งเข้าชนอย่างจัง บาดเจ็บ 3 สาหัส 1


27 มิ.ย. 2562, 08:03



รถไอติมเป็นเหตุ !! ตัดหน้า "รถพ่วง" ต้องเบรกกะทันหัน รถพ่วงวิ่งสวนทางพุ่งเข้าชนอย่างจัง บาดเจ็บ 3 สาหัส 1




เมื่อเวลา 15.30 น วันที่ 26 มิ.ย. 62 ภาพเหตุการณ์นาทีชีวิต ที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ อบต.โพธิ์หมากแข้ง กู้ภัยสว่างฯศรีวิไล จุดบึงโขงหลง กู้ภัยบึงโขงหลง และผลเมืองดี เข้าช่วยเหลือนายบุญแถน บุญชิ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/2 หมู่ 10 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี ออกมาจากหน้ารถพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-1218 ตัวลูกทะเบียน 70-1219 จังหวัดเลย อย่างทุลักทุเลหลังชนประสานงานกับรถพ่วง 22 ล้อเหมือนกัน บนถนนทางหลวงหมายเลข 2026 บึงโขงหลง เซกา ท้องที่บ้านโนนจำปาทอง ม.10 ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง ขวางถนนจนไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ เบื้องต้นมีอาการสาหัสแขนและขาข้างขวาหัก สะโพกหัก ก่อนถูกนำตัวส่ง รพ.บึงโขงหลง และส่งไปรักษาต่อที่ รพ.บึงกาฬ ส่วนลูกน้อยวัย 2 ขวบและภรรยาที่โดยสารมาด้วยบาดเจ็บเล็กน้อย



นายชิติพันธ์ มารมณ์พันธุ์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/14 หมู่ 3 ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โซเฟอร์รถพ่วงคู่กรณีที่เป็นรถเปล่าให้การว่า ขณะขับขี่มาถึงที่เกิดเหตุได้มีรถขายไอครีมขับรถออกมาจากซอยตัดหน้า ด้วยความตกใจจึงเบรกรถกะทันหัน ประกอบกับฝนตกถนนลื่น ทำให้ลูกพ่วงด้านหลังแฉลบเหวี่งออกมา จังหวะนั้นรถพ่วงคู่กรณีขับสวนทางมาพอดีทำให้พุ่งชนเข้าอย่างจังเสียงดังสนั่นพังยับ

นางรัตนากร บุญชิ อายุ 39 ปี ภรรยานายบุญแถน กล่าวว่าหลังจากไปรับทรายมาเต็มรถกำลังจะมุ่งหน้ากลับบ้านที่จังหวัดอุดรธานี มาถึงที่เกิดเหตุสังเกตเห็นรถพ่วงคู่กรณีวิ่งสวนมา มีลักษณะคล้ายกับเบรกรถทำให้ลูกพ่วงสะบัดเหวี่ยงส่ายไปมากระแทกกับหน้ารถฝั่งที่สามีเป็นคนขับ พอเห็นแบบนั้นตนก็รีบคว้าตัวลูกไว้ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก จนลูกตกลงไปอยู่ใต้ที่พักเท้าหน้ารถ พอตั้งสติได้หันไปดูสามีก็พบว่าถูกอัดก๊อปปี้สลบคาพวงมาลัย โชคดีมีพลเมืองเข้ามาช่วยตัวเองกับลูกออกมาก่อนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

 


หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.สนิท คำชมภู รอง.สว.สอบสวน สภ.บึงโขงหลง เข้าตรวจที่เกิดเหตุพร้อมกับเก็บรวบรวมหลักฐาน สอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ และให้กู้ภัยเร่งเก็บกู้ซากรถ และนำรถพ่วงคู่กรณีทั้ง 2 คันออกจากจุดเกิดเหตุ ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงเคลียร์ถนนได้ เปิดทางให้ประชาชนได้ใช้ถนนสัญจรไปมาได้ตามปกติ ส่วนเรื่องคดีจะได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาสอบสวนอีกครั้งหลังรักษาตัวจนหายปกติแล้ว.

 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.