เป็นโปรเจกต์ยักษ์อีกหนึ่งโครงการ ที่ชาวโคราช ต่างรอคอยให้เกิดขึ้นจริง สำหรับ โครงการรีโนเวต  สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.นครราชสีมา แห่งที่2 (บขส.2)  หลังเปิดใช้บริการมานานร่วม 30 ปี ทำให้สภาพทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลา ไม่สมศักดิ์ศรีเมืองหน้าด่าน มหานครแห่งอีสาน 

 นายศรรบ หล่อธราประเสริฐ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด และผู้บริหารสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.นครราชสีมา แห่งที่2 (บขส.2) เปิดเผยว่า “สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งนี้มีเนื้อที่ 30ไร่ ได้เปิดให้บริการมากว่า 31 ปีอายุเยอะแล้ว ช่วงนี้ผู้โดยสารลดลงอาจจะเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจด้วย รวมถึงการแข่งขันกับสายการบินโลว์คอสต์เส้นทางไกลๆกรุงเทพฯ-อุดร หรือกรุงเทพฯ-อุบล ระยะทางเกิน 400 กม.และระบบการจำหน่ายตั๋วที่ต่างกัน สายการบินโลว์คอสต์สามารถลดราคาต่ำลงได้ แต่รถโดยสารทำไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย” 

“สำหรับการปรับปรุง บขส.2โคราช เหตุผลที่ต้องรีโนเวทก็เพื่อรองรับการคมนาคมโครงสร้างพื้นฐานในอนาคตอีกประมาณ 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะมีการเปิดให้บริการมอเตอร์เวย์ รถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง จะทำให้ประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางมากยิ่งขึ้น ซึ่งบขส.2 มีอายุขนาดนี้ทุกอย่างในบขส.มีสภาพที่เก่าแล้ว ถึงเวลาที่ควรปรับปรุงโฉมใหม่เป็นการรีโนเวททั้งหมด จะเพิ่มความทันสมัยและสะดวกกับผู้ที่มาใช้บริการ บขส.2 มากขึ้น” 

“และปัจจุบันลานจอดรถทั่วไปที่มารอรับส่งก็ไม่เพียงพอจอดได้ 100 คันเท่านั้น ส่วนตอนนี้อยู่ในขั้นออกแบบ เพื่อนำเสนอแบบการปรับปรุงทั้งหมดกับคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกของจังหวัด จากนั้นจะนำรูปแบบไปเสนอขออนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เพื่อพิจารณา” 

 

 “ดีไซน์บขส.2 จุดเด่นจะสร้างในคอนเซ็ปต์เหมือนกับรูปแบบสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการ รูปแบบการบริหารจัดการช่องจอดรถโดยสาร จะนำเทคโนโลยีระบบซอฟต์แวร์มาใช้ และจะแยกประเภทรถอย่างชัดเจนทั้งรถทัวร์และรถตู้ พร้อมลดจำนวนช่องจอดรถโดยสารเดิมจาก 110 ช่อง เหลือ 70 ช่อง เนื่องจากจะไม่ให้รถโดยสารมาจอดรอ เมื่อมารับคนแล้วก็ให้ออกเดินทางได้เลย”

 “โดยออกแบบเป็นอาคารสูง 4 ชั้น ประกอบด้วยชั้น 1 จะเป็นชานชาลาและร้านอาหารเชิงพาณิชย์ ชั้น 2 จะเป็นชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสารและห้องรับรองผู้โดยสาร (เลาจน์) ของบริษัทเดินรถต่างๆ ที่จะมีบริการอาหารเครื่องดื่ม ซึ่งบริษัทจัดเตรียมไว้คล้ายกับเลาจน์ของสายการบินที่อยู่ในสนามบิน ชั้น 3 เป็นกล่องนอน (สลีพ บ็อกซ์) เหมือนกับที่สนามบินดอนเมือง และชั้น 4 เป็นออฟฟิศของบริษัท ส่วนบริเวณรอบๆ อาจใช้เป็นพื้นที่สำหรับจอดรถที่สะดวกและเข้าถึงง่ายขึ้น”

 

“ส่วนรูปแบบการก่อสร้างจะใช้พื้นที่ประมาณ 30 ไร่จากที่ทั้งหมด 80 ไร่ ซึ่งพื้นที่บขส.ปัจจุบัน 30ไร่จะเปิดจนกว่าการก่อสร้างที่ใหม่เสร็จ แล้วจะทุบทิ้ง ตอนนี้แบบน่าจะเสร็จกลางปี 2563 ส่วนปีต่อไปจะเป็นเรื่องการกู้เงินมาสร้างประมาณขั้นต่ำ 700-800 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มสร้างได้ในช่วงปี 2564 และจะเปิดให้บริการได้ในปี 2566”