มท.2 เปิดงาน "KOLOK CITY RUN 2020" วิ่งเพื่ิอสุขภาพ-การกุศล จัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ให้รพ.อ.สุไหงโกลก
1 มี.ค. 2563, 17:05
วันนี้ ( 1 มี.ค.63 ) เวลา 05.30 น. นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "KOLOK CITY RUN 2020" โดยมี นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นาวาตรีหญิง โนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส นาง สุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโกลก นายอำเภอเมือง สุไหงโกลก หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เข้าร่วมวิ่งเพื่อการกุศล ทั้งชาวไทยและมาเลเซีย ร่วมในพิธีเปิด ณ หน้าอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เทศบาลเมืองสุไหงโกลก อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนในอำเภอสุไหงโก-ลก และพื้นที่ใกล้เคียงที่มีความรักในการออกกำลังกายเป็นประจำ มีพื้นที่ในการปลดปล่อยพลังความสามารถของแต่ละคนออกมา และยังเป็นการชักชวนนักวิ่งหน้าใหม่ให้ได้ออกมาสัมผัสกับบรรยากาศความสุข ความมุ่งมั่น และมิตรภาพในการวิ่ง ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาขนในอำเภอสุไหงโกลก ได้มีการออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งจะส่งผลให้มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง มีสุขภาพจิตที่ดี และยังเป็นการส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
นอกจากการส่งเสริมให้ประชาชนในอำเภอสุไหงโกลก ได้หันมาออกกำลังกายแล้ว ที่สำคัญของการจัดงานดังกล่าวครั้งนี้ เพื่อเป็นการระดมทุนในการจัดหาซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยรายได้หลังหักค่าใข้จ่ายในงานวิ่งครั้งนี้ จะนำไปซื้อเครื่องควบคุมการให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ เพื่อมอบให้แก่โรงพยาบาลสุไหงโกลก ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างมาก ในการดูแลรักษาผู้ป่วย ตั้งแต่ผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือระดับต่ำ จนถึงผู้ป่วยที่ต้องการความช่วยเหลือดูแลในระยะวิกฤต
สำหรับการจัดงาน KOLOK CITY RUN 2020 ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักวิ่งทั้งในพื้นที่และนักวิ่งจากประเทศมาเลเซียกว่า 2,000 คนเข้าร่วมในการวิ่งครั้งนี้ โดยแบ่งเป็นการแข่งขันระยะฮาร์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร จำนวน 280 คน ระยะมินิมาราธอน 10.5 กิโลเมตร จำนวน 1,000 คน และฟันรัน 5 กิโลเมตร จำนวน 1,050 คน
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่เทศบาลเมืองสุไหงโกลก ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย และการรักษาสุขภาพ ดั่งคำขวัญที่ว่า สุขภาพดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเอง ซึ่งรัฐบาลเองก็ให้ความสำคัญในเรื่องของการออกกำลังกาย ซึ่งการวิ่งครั้งนี้ นอกจากสุขภาพร่างกายของเราจะแข็งแรงแล้ว ยังนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย มอบให้แก่โรงพยาบาลสุไหงโกลก ซึ่งเป็นสถานพยาบาลที่สำคัญ ที่รองรับผู้ป่วยทั้งในพื้นที่อำเภอสุไหงโกลก และอำเภอใกล้เคียง นับว่าเป็นการวิ่งครั้งเดียวแต่ได้ประโยชน์ถึงสองทาง