ชาวบ้านนับ 1,000 คน แห่ไปศาลปู่ตา "ทึม ดำ" หลังเห็นต้นข้าวเหี่ยวแห้ง
27 มิ.ย. 2562, 13:45
วันที่ 26 มิถุนายน 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ตำบลตรึม อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นายทองใส หงษ์เพชร กำนันตำบล ตรึม นายสุธี วังสันต์ ผู้ใหญ่บ้านตรึม หมู่ 16 ตำบลตรึม อำเภอศีขรภูมิ พร้อมทั้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทั้งหมด 18 หมู่บ้าน ได้พากันเดินทางด้วยรถยนต์ร่วมร้อยคัน ประชาชนประมาณ 1,000 คน รวมตัวกันเดินทางไปยังสำนักสงฆ์บ้านม่วงหนองยาว หมู่ 13 ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่ออัญเชิญวิญญาณ ของปู่ตา มีชื่อว่า ทึม ดำ ที่อาศัย ประจำภายในศาลประจำหมู่บ้าน ท่านได้หลบหนี ออกจากศาลประจำหมู่บ้าน ไปพักยังศาลที่ตำบลกู่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ เพราะเป็นบ้านเดิมของท่าน ตามความเชื่อของชาวบ้าน เนื่องจากปีไหนที่ฝนทิ้งช่วง หรือเกิดสภาพความแห้งแล้ง ต้นข้าวแห้งตาย ชาวบ้านได้นำร่างทรง มานั่งทางในดู พบว่าปู่ตา ที่พักอาศัย ในศาลประจำหมู่บ้าน ในพื้นที่ตำบลตรึม อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ท่านได้เดินทางกลับบ้านเดิม ที่ตำบลกู่ อ.ปรางค์กู่ เมื่อชาวบ้านประกอบพิธีขอขมา และอัญเชิญดวงวิญญาณของปู่ตา ทึม ดำ ให้ท่าน กลับมาพักอาศัย ภายในศาลปู่ตาประจำหมู่บ้านแล้ว ฟ้าฝนก็จะตกต้องถามฤดูกาล พืชผลการเกษตร ต้นข้าวในแปลงนาก็จะงอกงามอุดมสมบูรณ์
เมื่อเดินทางไปถึงสำนักสงฆ์บ้านม่วงหนองยาว หมู่ 13 ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ได้ประกอบพิธีนำ อาหารคาวหวาน ทำบุญและถวายภัตตาหารเพล แด่พระภิกษุสงฆ์ พร้อมรับ ศีลรับพรจากพระสงฆ์ หลังจากนั้นก็ได้มาประกอบทำพิธีตรงที่ศาลปู่ตา ทึม ดำ โดยมี ข้าวของเครื่องเซ่นไหว้ทั้งหลายอย่างเช่นมีเหล้า น้ำแดง น้ำเปล่า ไก่นึ่ง ผลไม้ ข้าวปลาอาหารเป็นต้น และสิ่งที่เตรียมทำในพิธีก็มีพวกขันดอกไม้ ธูปเทียน ผ้าไหม ฝ้ายผูกข้อแขน ข้อมือ น้ำเปล่า น้ำหวาน น้ำสาโท พอเริ่มพิธีไม่นานปู่ตาทึมคำ ก็มาสิงยังร่างทรงแล้วพูดคุย กับชาวบ้านถึงวัตถุประสงค์ที่มา แรกๆปู่ตาก็ไม่ยอมกลับไปด้วยกับ ชาวบ้านๆก็ขอร้องให้ปู่ตาไปช่วยเพราะว่าช่วงนี้แห้งแล้ง ข้าวที่หวานไว้ในนาจะตายหมดแล้ว ซึ่งมีหลายต่อหลายคนช่วยกันอ้อนวอน ปู่ตา เพราะทางชาวบ้านเชื่อว่า ปูตา ทึม คำ หนีไปอยู่ที่ บ้านอื่น แล้วฝนฟ้าไม่จะตกลงมา ร้องขอกันอยู่นานปู่ตาจึงตกลงไปรับคำอัญเชิญ เดินทางกลับมายังตำบลตรึม อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ จากนั้นร่างทรงปู่ตา ทึมคำ ก็เดินหลับตา เดินไปหาหลวงพ่ออาวาสสำนักสงฆ์ ทั้งที่ยังหลับตา กราบลาหลวงพ่อเจ้าอาวาสและขอพรพระแล้วกราบลาหลับตาเดินขึ้นรถ กลับมาพร้อมกับชาวบ้าน
เมื่อเดินทางกลับมาถึงตำบลตรึม ขบวนรถกว่า 100 คันเข้าเขตตำบลตรึม ก็จะมีชาวบ้านที่ไม่ได้เดินทางไป ด้วยก็จะออกมาคอยต้อนรับตามถนนหนทางหน้าบ้านที่มีรถผ่านพร้อมทั้งนำเอาขันน้ำที่มีน้ำอบ น้ำหอม น้ำขมิ้น ดอกไม้ประพรมให้กับร่างทรงที่ปู่ตา ทึมดำ สิงห์สถิตย์อยู่ เดินทางไปยัง คือศาลปู่ ตาทึมดำ ที่ อบต.ตรึม พอมาถึงประชาชนชาวบ้านพร้อมกับร่างทรงก็เดินรอบศาล ปู่ตา 3 รอบ จากนั้นร่างทรง ได้ขึ้นไปบนศาลปู่ตานั่งลงบนเสื่อที่ชาวบ้านนำมาปูไว้ต้อนรับจะมีกลองตีบรรเลง มีแคนเป่าอยู่ตลอดเวลา ในช่วงการทำพิธี จากนั้นชาวบ้านที่มาก็จะนำเอาด้ายมาแขน ข้อไม้ ข้อมือ เป็นการต้อนรับให้กับปู่ที่เป็นร่างทรง พูดคุยกับชาวบ้านไป จนกระทั่งเวลาอันสมควร ปู่ตา ทึม ดำ ก็ออกจากร่างทรง เป็นการเสร็จพิธีอัญเชิญ ปู่ตา ทึมดำ กลับมายังศาลในพื้นที่ตำบลตรึม
ในขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลตรึม บอกว่า ได้ลงมือหว่านข้าวมาในช่วงเดือนเมษายน พอข้าว เริ่มเขียวขจีสวยงาม แต่มาช่วงฝนทิ้งช่วง ไม่มีฝนตกลงให้น้ำแก่ต้นข้าว ต้นข้าวที่เขียวขจีเริ่มมีสีแดงเหลืองและแห้งกรอบเป็นหย่อมๆ กินวงกว้างไปทั่วทั้งตำบล ชาวตำบลตรึม มีอาชีพก็จะทำนาเป็นอาชีพหลัก และต้องอาศัยน้ำจากฝนที่ตกลงมาเม่านั้น ไม่มีระบบชลประทาน ดังนั้นด้วยความเชื่อของชาวบ้านว่าหากชาวตำบลตรึมไปเชิญปู่ตาที่หนีไป อยู่ที่อื่นให้มาอยู่ที่ตำบลตรึมแล้วอาจจะทำให้ฝนฟ้าตกลงมา ตามความเชื่อของชาวบ้านที่ได้ปฏิบัติ อย่างนี้ทุกปีที่เกิดสภาพความแห้งแล้งดูทำนา ส่วนจะจริงหรือไม่จริงที่ว่าหากเชิญมาแล้วฝนจะตกลงมานั้น อันนี้ต้องรอพิสูจน์กันต่อไปและนั่นก็เป็นความเชื่อของชาวบ้านตำบลตรึม