จากกรณีที่ได้มีการโพสข้อความ และภาพทางโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับร้านกาแฟเชียงรายปัญญาฯ ตั้งอยู่ที่อาคารพาณิชย์เลขที่ 193/4-5 หมู่บ้านร่องขุ่น หมู่ 1 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย ด้านหลังวัดร่องขุ่น ซึ่งเป็นร้านของเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาหรือเด็กพิเศษ จากโรงเรียนเชียงรายปัญญานุกูล ที่ต้องการโอกาสจากสังคม ซึ่งหลังจากมีผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว ได้ทำให้เริ่มมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการมากยิ่งขึ้น

โดยภายในร้านมีครูพี่เลี้ยงและเด็กพิเศษ ที่ได้รับการฝึกอบรมมาแล้ว ให้บริการวันละ 4-5 คน แต่ละคนมีความสามารถในการชงกาแฟและชา โดยมีครูพี่เลี้ยงคอยดูแลให้บริการ และจำหน่ายในราคาเพียงแก้วละ 30 บาท พร้อมกับบริการอาหารตามสั่ง ในร้านยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฝีมือของเด็กพิเศษ เช่น ของที่ระลึก เครื่องประดับ กระเป๋าใบเล็ก

นายกมล ดาระสุวรรณ์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนเชียงรายปัญญานุกูล  กล่าวว่าร้านดังกล่าวสร้างขึ้นเพื่อรองรับการเป็นศูนย์ฝึกปฏิบัติงานอาชีพนักเรียน ของโรงเรียนเชียงรายปัญญานุกูล เพราะโรงเรียนจะรับดูแลเด็กพิเศษเพียงแห่งเดียวของจังหวัด และมีเด็กพิเศษจากที่ต่างๆมาเรียนด้วย โดยจะมีตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีจำนวน 437 คน กว่า 90% เป็นคนเชียงราย และกว่า 70% เป็นคนบนพื้นที่สูง ซึ่งจบการศึกษาออกไปแล้ว ก็มักจะไม่สามารถไปเรียนต่อได้ เพราะมีความบกพร่องทางสติปัญญา ทางโรงเรียนจึงได้เน้นด้านการฝึกอาชีพซึ่ง ปัจจุบันเปิดสอนกว่า 50 อาชีพ เพื่อให้เด็กๆ สามารถไปประกอบอาชีพพึ่งพาตัวเองได้เมื่อจบออกไป ซึ่งที่ผ่านมาก็พบว่าหลายคนมีความสามารถทำได้ โดยบางคนไปเปิดร้านกาแฟขายเอง บางคนแกะสลักผลไม้ได้เก่งมาก จนโรงแรมว่าจ้างให้ไปทำงานด้วย แต่เนื่องจากโรงเรียนอยู่ห่างจากวัดร่องขุ่น ประมาณ 3 กิโลเมตร และห่างไกลชุมชน จึงมาเปิดร้านใกล้กับวัดร่องขุ่น เพราะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนจำนวนมาก

ที่ผ่านมาได้รับความอนุเคราะห์จาก สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) เชียงราย ให้เปิดร้านภายในที่ดินของ พมจ. บนถนนฝั่งตรงกันข้ามกับอุโบสถขาวของวัดร่องขุ่น ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จด้วยดี โดยเด็กๆ มีฝีมือในการปรุงชาและกาแฟได้ รวมทั้งให้บริการนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ทางโรงเรียนจึงจัดเด็กๆ ผลัดเปลี่ยนกันไปอยู่ร้าน วันละ 4-5 คน และเนื่องจากเราไม่มุ่งหวังผลกำไร ดังนั้นเมื่อหักต้นทุนแล้วเหลือกำไรก็แบ่งปันให้กับเด็กๆ ทุกคน เอาไปฝากธนาคารไว้ ทำให้ที่ผ่านมาร้านมีรายได้ปีละเกิน 1 ล้านบาท และเด็กๆ ที่จบการศึกษาออกไปหลายคน ได้รับเงินสะสมคนละ 20,000-30,000 บาท เป็นทุนในการใช้ชีวิตต่อไป แต่เมื่อเร็วๆ นี้ทาง พมจ.และเทศบาล ต.ป่าอ้อดอนชัย ได้แลกเปลี่ยนที่ดินกัน ทำให้ร้านกาแฟของเด็กๆ ไม่สามาถตั้งอยู่ที่เดิมได้อีก