วันนี้ 03 มี.ค. 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า บรรดาร้านค้าในจังหวัดกาญจน์ เริ่มได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยว รวมถึงประชาชนชัดเจน โดยเฉพาะร้านค้าอาหาร ร้านตัดผม สถานบริการต่างๆ ฯลฯ.ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ประชาชน นักท่องเที่ยวเริ่มลดลง โดยเฉพาะที่บริเวณสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของสังขละบุรี ช่วงนี้บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบเหงา วันนี้บนสะพานไม้ฯ มีชาวบ้านที่เดินทางข้ามสะพานมาทำงานยังฝั่งตลาดสังขละบุรี  โดยพบนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวประมาณ 50 คน ที่เดินชมบรรยากาศยามเช้าของทะเลสาปและสัมผัสชีวิตของเด็กกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่มาคอยบริการปะแป้งให้นักท่องเที่ยวบนสะพานฯ และที่ขายดีมากคือผ้าแมสปิดปากปิดจมูก ร้านขายยาขายดีสินค้าไม่มีขาย ตามร้านสะดวกซื้อได้ใส่ถุงเพียงชิ้นเดียวแต่ราคาก็สูงกว่าเดิมมาก

 

           เช่นเดียวกับบรรยากาศในชุมชนบ้านวังกะ ซึ่งปกติในทุกๆเช้าจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทำบุญตักบาตรตามวีถีมอญ และเลือกเดินชิมอาหารพื้นเมือง และเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก กลับไปเป็นของฝาก โดยพบว่าผู้ประกอบการบางรายได้ปิดร้านอาหาร เช่นร้านขนมจีนป้าหยิน ซึ่งเป็นร้านที่ทุกคนที่เคยมาเที่ยวสังขละบุรีต้องรู้จัก

 

           ส่วนบรรยากาศร้านค้าเสื้อผ้าและเครื่องประดับ บริเวณใต้สะพานพบว่ากว่า 50% ผู้ประกอบการได้ปิดร้าน โดยจะเลือกเปิดเฉพาะในวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อลดค่าใช้จ่าย ส่วนร้านค้าที่เปิดขายก็มียอดขายที่ลดลง น.ส.ภคพร  วรินทร์ เจ้าของร้านเครื่องประดับ และจิวเวอรรี่ ซึ่งตั้งอยู่เชิงสะพานไม้ฯฝั่งชุมชนบ้านวังกะเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดข่าวโควิต-19 บรรยากาศท่องเที่ยวของที่นี่คึกคัก โดยในช่วงเช้าของทุกวันจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว หากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ที่นี่แทบจะไม่มีที่ให้ยืน จากที่เคยขายของได้วัน 7พัน-2-3หมื่น มาช่วงนี้บางวันได้เพียง 6-7 ร้อย

 

           เช่นเดียวกับผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวของชมรมเรือนำเที่ยวเทศบาลตำบลวังกะ ที่ต้องออดเดินเรียกลูกค้าบนสะพานฯ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นักท่องเที่ยวน้อยแบบนี้กว่า1 เดือนแล้ว หลังจากเกิดปัญหาหมอกควันที่เกิดจากไฟป่าในพื้นที่ และปัญหาโรค โควิต-19 ที่กำลังต้องเฝ้าระวัง จากที่เคยออกเรือวันละ 2-3รอบต่อวัน ตอนนี้ เหลือสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

 

           แม้วันนี้ปัญหาหมอกควันเริ่มคลี่คลาย แต่ยอกจองห้องพักและโฮมสเตย์ ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จากที่เคยเต็มแทบทุกวัน ตอนนี้ยอดจองลดลงกว่าครึ่ง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาและจัดกิจกรรมส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยว เนื่องจากปัจจุบันการท่องเที่ยว เป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจในพื้นที่ ที่สร้างรายได้กว่า 2-3 ร้อยล้าน ต่อปี สร้างงาน สร้างรายได้กระจายไปในทุกภาคส่วน..หากสภาพนักท่องเที่ยวยังคงเป็นแบบนี้ มีแนวโน้มที่ธุรกิจหลายอย่างที่เกี่ยวเนื่องในการท่องเที่ยว ต้องปิดตัวลงแน่นอน.