พายุพัดถล่ม "อาคารเรียน" โรงเรียนบ้านดอนกลางตาลเดี่ยว 3 หลัง พังเสียหายยับ โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
3 มี.ค. 2563, 16:20
วันนี้ (3 มี.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพายุถล่มบ้านเรือนประชาชนเสียหายหลักในหลายอำเภอ รวมทั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นเกือบ 100 ต้น โดยเฉพาะที่อ.โนนสะอาด ได้รับแจ้งจากนายวรพันธ์ ชำนิยันต์ นายอำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี รายงานข้อมูลความเสียหายจากพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี เมื่อเวลา 20.30 น. ของวันที่ 2 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยในพื้นที่อ.โนนสะอาดมีพื้นที่ได้รับความเสียหายเหตุพายุฤดูร้อนเมื่อคืนนี้ มีราษฎรได้รับความเดือดร้อน ในพื้นที่ 2 ตำบล คือ ต.โนนสะอาด 111 หลังคาเรือน ต.โพธิ์ศรีสำราญ 15 หลังคาเรือน รวม 126 หลังคาเรือน มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือ นายอภิวัฒน์ ศรีโมง อายุ 20 ปี ที่ขี้รถ จยย.ชนเสาไฟฟ้าที่หักโค่นขวางถนน แขนหัก ส่วนเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นด้วยแรงพายุเสียหายจำนวน 60 ต้น และเสาไฟฟ้าแรงต่ำ 3 ต้น รวม 63 ต้น ซึ่งทางอำเภอได้ประสาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกแห่งเข้าช่วยเหลือประชาชนเป็นการเบื้องต้น และขณะนี้ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กำลังเร่งดำเนินการ เพื่อให้ระบบไฟฟ้าใช้ได้ทั้งอำเภอภายในวันนี้
นอกจากนี้ พายุฤดูร้อนยังถล่มในหลายอำเภอคือ อ.หนองหาน อ.กุมภวาปี อ.ประจักษ์ศิลปาคม อ.บ้านผือ และ อ.กู่แก้ว โดยที่ทางหลวงหมายเลข 2350 บริเวณบ้านเมืองพรึก อ.กุมภวาปี ไปถึง บ้านม่วงคอนสาย อ.กุ่แก้ว เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นจากแรงพายุเกือบ 100 ต้น เบื้องต้นมีรายงานอ.กู่แก้ว 2 ตำบล คือ ต.คอนสาย เสียหายหนัก 58 หมู่บ้าน ส่วนที่อ.หนองหานมีรายงานบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากพายุจำนวน 395 หลังคาเรือน หนักสุดในต.พังงู คือที่บ้านดอนกลางเสียหายเกือบทั้งหมู่บ้าน และโรงเรียนอีก 2 แห่งคือที่โรงเรียนบ้านพังงูและโรงเรียนบ้านดอนกลางตาลเดี่ยวที่ได้รับความเสียหาย หนักสุดเห็นจะเป็นโรงเรียนบ้านดอนกลางตาลเดี่ยว อาคารเรียนจำนวน 3 อาคารพังยับไม่มีชิ้นดี คอกไก่และคอกหมูป่าหลังคาสังกะสีเปิดออกมาต้นไม้ขนาดใหญ่อยู่ภายในบริเวณโรงเรียนหักโค่นระเนระนาด โชคดีที่ไม่มีนักเรียน ครูและนักการภารโรงได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
นางกรรณิการ์ บุญเกิด อายุ 35 ปี ครูโรงเรียนบ้านดอนกลางตาลเดี่ยว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านพายุมาแรงมาก ไม่ถึง 20 นาทีหลังคาอาคารเรียนทั้ง 3 อาคารปลิวว่อนไปกับแรงพายุ โดยเฉพาะอาคารเรียนชั้นอนุบาลและป.2 แต่ก่อนเป็น 2 ชั้นแต่เมื่อโดนพายุเมื่อปี 57 ทางคณะกรรมการโรงเรียนมีมติจะรื้อถอนแต่หากรื้อถอนจะไม่มีอาคารเรียนให้เด็กนักเรียนจึงตัดอาคารให้เหลือชั้นครึ่งทำหลังคาใหม่ แต่มาครั้งนี้ก็เจออีกจนได้ จากนั้นครูได้พาผู้สื่อข่าวเดินสำรวจความเสียหายอีก 2 อาคารพบว่าอาคารเรียนของชั้นป.1-ป.6 ซึ่งเป็นอาคารเรียนสองชั้น ชั้นสองแรงพายุทำให้หลังคาและฝ้าเพดานถล่มลงมาทับโต๊ะนักเรียนจนพังยับเยิน เอกสารการเรียนของเด็กๆไม่เหลืออะไรเลย
ครูกรรณิการ์กล่าวไปน้ำตาคลอไป บอกอีกว่า รู้สึกเสียใจมาก ย้ายมาอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ 6 ปีเจอพายุมาแล้ว 3 ครั้ง เห็นภาพแบบนี้แล้วเศร้ามาก ห็นภาพแบบนี้แล้วเศร้ามากอนจะไม่มีดเวลารงเรียนสามารถติดต่อได้ที่เพจด่วน้าอ.กู่แก้วปรากฎว่าพนักงานขับรถของสำนักงานการไฟฟ้าเพราะโรงเรียนเหมือนบ้านหลังที่ 2 เห็นภาพแล้วพูดไม่ออกเจอมาหลายครั้ง ตอนนี้ก็คงต้องให้นักเรียนหยุดโรงเรียนไปก่อน โรงเรียนแห่งนี้เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปถึงชั้น ป.6 มีครู 8 คนเป็นผู้หญิงล้วนและไม่มีผอ. นักเรียน 92 คนตอนนี้สงสารเด็กๆ เพราะใกล้สอบแล้ว แต่ไม่มีสมุดหนังสืออะไรเหลิอเลย ตอนนี้คงต้องให้นักเรียนหยุดโรงเรียนไปก่อนรอทางหน่วยงานต้นสังกัดเข้ามาช่วยเหลือต่อไป แต่หากน้ำใจคนไทยอยากจะเข้ามาช่วยเหลือโรงเรียนสามารถติดต่อได้ที่เพจโรงเรียนบ้านดอนกลางตาลเดี่ยวได้ตลอดเวลา
ขณะที่ความเสียหายจากพายุที่บ้านดอนกลาง ต.พังงู อ.หนองหาน พบว่าหลังคาบ้านปลิวว่อนเกือบทั้งหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ อย่างบ้านของป้าสวย โพสิง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขมี่ 87 หมู่ 3 บ้านดอนกลาง เล่าเหตุการณ์ระทึกตอนพายุถล่ม บอกว่า ตอนนั้นอยู่กับตาและหลานรวม 3 คนตอนพายุมาแรงมาก ได้ยินเสียงลมจากนั้นก็ได้ยินเสียงข้างบนบ้านพังครืนลงมา ตนและสามีก็ร้องตกใจและสั่นมาก เพราะเกิดมาเกือบ 60 ปีเพิ่งมาเจอวันนี้ เคยเห็นแต่ข่าวที่อื่นไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวเอง ตอนบ้านพังคิดในใจว่า โสตายแล้ว!!! เป็นไงเป็นกัน โชคดีที่ตนสามีและหลานรอดมาได้ทั้ง 3 คนเหมือนตายแล้วเกิดใหม่
ส่วนที่บ้านของนางกรรณิการ์ เสียงอ่อน อายุ 35 ปีชาวบ้านอีกหลังในบ้านดอนกลางพายุถล่มจนชั้น 2 ของบ้านปลิวว่อนและเสาบ้านล้มมาทับรถยนต์เก๋งวีออสสีขาวจนได้รับความเสียหายกระจกหลังแตก
นางกรรณิการ์ บอกว่า ช่วงก่อนพายุมาตอนนั้นตนเองอยู่กับลูกชั้นล่าง แต่มีหลานวัย 14 อยู่ชั้นบนบ้าน พอพายุมา ได้ยินแต่หลานที่อยู่ด้านบนบอกว่า ช่วยด้วยๆ แต่ตอนนั้นช่วยอะไรไม่ได้เพราะยังมีพายุ พอสงบก็เจอหลานค่อยๆ เดินลงมาจากชั้นบนของบ้าน ตอนแรกนึกว่าหลานตายไปแล้ว ตกใจมากเกิดมาไม่เคยเจอพายุหนักขนาดนี้
ทางด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.อุดรธานี รายงานว่า พายุร้อนฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา กระจายไปในหลายพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.โนนสะอาด กุมภวาปี หนองหาน บ้านผือ รวมความเสียหาย 8 ตำบล 26 หมู่บ้าน บ้านเรือนราษฎรเสียหายรวม 546 หลัง อ.หนองหาน ถือว่าได้รับความเสียหายหนักที่สุด มีบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 395 หลังคาเรือน อ.โนนสะอาด 2 126 หลังคาเรือน เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นรวม 70 ต้น อ.กู่แก้ว 2 ตำบล คือ ต.คอนสาย เสียหายหนัก 58 หมู่บ้าน เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น 100 ต้น ส่วนที่ อ.บ้านผือ เสียหาย 1 ตำบลคือ หมู่ 8 หมู่ 9.จำนวน 20 หลังคาเรือน โดยในวันนี้และวันพรุ่งนี้ในพื้นที่จ.อุดรธานีต้องเฝ้าระวังพายุฤดูร้อนที่จะเกิดซ้ำขึ้นมาอีก จึงขอแจ้งเตือนประชาชนเตรียมรับมือด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าอ.หนองหานระดมกำลังคนเพื่อเดินทางเข้าไปรื้อถอนและนำเสาไฟฟ้าแรงสูงเข้าไปติดตั้งใหม่บริเวณสามแยกทางเข้าอ.กู่แก้วปรากฎว่าพนักงานขับรถของสำนักงานการไฟฟ้าเกิดเป็นลมบ้าหมูกัดลิ้นตัวเอง เจ้าหน้าที่ต้องรีบโทรเรียกหน่วยกู้ชีพของทต.คอนสายเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที ท่ามกลางการโล่งอกของเพื่อนๆ การไฟฟ้าและรีบนำส่งรพ.กู้แก่วเป็นการรักษาเร่งด่วน/////////////////////