ครม.เคาะตั้งกองทุน "โควิด-19" ขอรัฐมนตรีทุกคนสละเงินเดือน 1 เดือน ประเดิมเข้ากองทุน
3 มี.ค. 2563, 17:54
วันนี้ ( 3 มี.ค.63 ) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการกรณีการแก้ไขปัญหาโรคโควิด-19 เป็นมาตรการเร่งด่วน ด้านการป้องกันโรคและสุขภาพ 14 ข้อ และด้านการบรรเทาผลกระทบที่เกี่ยวข้องโดยมอบให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จัดทำมาตรการบรรเทาผลกระทบและกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเสนอคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณาโดยเร็ว ก่อนจะนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป รวมถึงการให้ข้อมูลและสื่อสารกับสาธารณชน เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพต้องผ่านศูนย์ข้อมูล ทั้งนี้มาตรการแก้ไขปัญหาโรคไวรัสโควิด-19 เพื่อบรรเทาผลกระทบและกระตุ้นเศรษฐกิจนี้จะประกอบไปด้วยมาตรการทางภาษี มาตรการสินเชื่อและการพักชำระหนี้ มาตรการด้านงบประมาณ มาตรการสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุน มาตรการการสร้างงานและพัฒนาทักษะ และมาตรการด้านสินค้าเกษตรและสินค้าอื่นในชุมชน
โดยมาตรการด้านการป้องกันโรคและสุขภาพทั้ง 14 ข้อ ประกอบด้วย ส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐ ดำเนินตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และหากหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือหน่วยราชการต้องเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อศึกษาดูงานก็ให้ระงับ หรือเลื่อนไป รวมทั้งให้ศึกษาดูงาน อบรมหลักสูตร ปรับเปลี่ยนงบประมาณให้มาดูในประเทศไทยแทน สวนเจ้าหน้าที่ของราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐเดินทางกลับมาจากเส้นทางที่แวะผ่านประเทศที่เสี่ยง หรือเกิดเหตุอันควรว่าเป็นโรคต้องสังเกตอาการ และปฏิบัติงานภายในที่พัก 14 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลา ส่วนประชาชนที่เดินทางมานั้นให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด มีการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาโรคๅโควิด-19
นอกจากนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกันพิจารณาปริมาณความต้องการของสินค้าที่จำเป็นต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หน้ากากอนามัย น้ำยาฆ่าเชื้อเดทตอลฆ่าเชื้อ เพื่อให้เพียงพอ รวมถึงให้กระทรวงพาณิชย์ ป้องกันการกระตุ้นและควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็น อีกทั้งมอบหมายให้ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและการคัดกรองผู้โดยสารอย่างเคร่งครัด, กระทรวงต่างประเทศและกระทรวงแรงงาน ติดตามดูแลคนไทยที่พักอยู่ในประเทศ ที่มีโรคระบาดและประเทศเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด สำหรับพื้นที่และสถานที่ในการสังเกตอาการ กรณีพบว่าผู้เดินทางอาจติดโรคดังกล่าวให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงกลาโหม เป็นผู้จัดการ
ส่วนการจัดหาเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ที่จำเป็นเพิ่มเติม ให้กระทรวงสาธารณสุข ไปดำเนินการประสานกับสำนักงบประมาณเพื่อขอจัดสรรงบจัดหาเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ให้เพียงพอ สำหรับการเชื่อมโยงข้อมูลเกี่ยวกับโรคให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข เชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ให้กระทรวงสาธารณสุข ดูแลบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณะสุขอย่างเหมาะสมและสวัสดิการพิเศษ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ด้วย และให้จัดประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้นายกรัฐมนตรี รับทราบ และจะได้นำข้อมูลต่างๆ มาร่วมพิจารณาหาทางแก้ไข และกรณีสุดท้ายคือ ให้หน่วยงานของรัฐประสานกับผู้ประกอบการเอกชนในเรื่องการหลีกเลี่ยงเลื่อนการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่ได้เสนอให้ตั้งกองทุน เพื่อให้รัฐมนตรีช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาโรคระบาดไวรัสโควิด-19 โดยเบื้องต้นขอให้รัฐมนตรี สละเงินเดือนเข้ากองทุนดังกล่าว คนละ 1 เดือนก่อน หรือแล้วแต่จะบริจาค ซึ่งทุกคนก็ยินดี