เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



รวบแล้ว!! "แก๊งต่างด้าว" ใช้ปืนขู่-มัดมือ 2 สามีภรรยา ปล้นทรัพย์ในสวนยางพารา จ.ชุมพร เร่งไล่ล่าอีก 1 ราย


4 มี.ค. 2563, 17:36



รวบแล้ว!! "แก๊งต่างด้าว" ใช้ปืนขู่-มัดมือ 2 สามีภรรยา ปล้นทรัพย์ในสวนยางพารา จ.ชุมพร เร่งไล่ล่าอีก 1 ราย




เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 4 มี.ค. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สภ.สวี อ.สวี จ.ชุมพร พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ตร.ชุมพร เปิดเผยว่า จากกรณี เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 เวลาประมาณ 19.20 น. ขณะที่ นาย TUN TUN WIN สัญชาติ เมียนมาเชื้อชาติมอญ อยู่กับภรรยา ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ภายในสวนยางพารา หมู่ที่ 6 ตำบลนาสัก อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนเข้ามา ใช้อาวุธปืนสั่งให้นอนคว่ำหน้าและข่มขู่ให้ผู้เสียหายบอกที่ซ่อนเงิน โดยใช้สำเนียงภาษาใต้ จากนั้นได้มัดมือของผู้เสียหาย และภรรยาไขว้หลัง หลังจากรื้นค้นได้ทรัพย์สินแล้ว คนร้ายขับขี่ รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป มี 1. จยย.ยามาฮ่า รุ่นสปาร์ค สีน้ำเงิน ทะเบียน 1 กจ 1969 ชุมพร 2. เงินสด  11,000 บาท ทรัพย์สินอื่นอีก

ต่อมา เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 เวลาประมาณ 02.00 น. พื้นที่ สภ.สวี เกิดเหตุลักษณะ คล้ายกันกับพื้นที่ของ สภ.นาสัก โดยเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเข้าไปปล้นทรัพย์ ของนายอองบา และ นางมะขาง สองสามีภรรยาชาวเมียนมา ซึ่งเป็นคนงานกรีดยางพารา พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ภายในสวนยางพารา หมู่ที่ 2 ตำบลท่าหิน อำเภอสวี จังหวัดชุมพร โดยมีคนร้ายจำนวน 3 คน มาเคาะ ประตูเรียก อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจค้นยาเสพติด แล้วคนร้ายได้ดันประตูบ้านจน เปิดออก โดยคนร้ายจำนวน 2 คน ได้เข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ และอีก 1 คน ยืนคุมอยู่ด้านนอก และคนร้ายที่เข้ามาในบ้านได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิด ขู่บังคับไม่ให้ขัดขืน แล้วใช้สายไฟพัดลมมัดมือ นายอองบา และใช้เชือกมุ้งมัดมือ นางมะขาง แล้วรื้อค้นเอาทรัพย์สินภายในบ้านโดยใช้เวลาในการก่อเหตุนานประมาณ 2 ชั่วโมง ทรัพยสินที่คนร้ายได้ไป มี 1. เงินสด จำนวน 300,000 บาท 2. จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ทะเบียน ขคน 870 ชุมพร 3. สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง จำนวน 1 เส้น 4. แหวนทองคำหนัก 1 สลึง จำนวน 3 วงทรัพย์สินอื่น รวม 5 แสนกว่าบาท การกระทำของคนร้ายเป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ภ.จว.ชุมพร, พล.ต.ต.ภิญโญ หวลกสินธุ์ ผบก.สส.ภ.8 ได้สั่งการควบคุมคดีด้วยตนเอง โดยมี พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จว. ชุมพร, พ.ต.อ.อุดร แก้วสุขศรี ผกก.สภ.สวี และ พ.ต.อ.โกสิต กาญจนะโกมล ผกก.สภ.นาสัก พ.ต.ต.สันติ มณีรัตน์ สว.ตม.ชุมพร เป็นหัวหน้าชุดทำงาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ชุมพร, เจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวน สภ.สวี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.นาสัก, ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 และตำรวจ ตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันคลี่คลายคดี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามผู้กระทำความผิดดังกล่าว จนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุปล้น ทรัพย์ในคดีนี้มี จำนวน 3 คน และได้ขออำนาจศาลจังหวัดหลังสวนอนุมัติหมายจับ คือ 1. นายชุ่ย หรือ Mr.WIN MON สัญชาติเมียนมา 2. นายนาย หรือ Mr.WIN NAING สัญชาติเมียนมา 3. นายเล็ก หรือ Mr.Win Tun สัญชาติเมียนมา ตั้งข้อหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ ยานพาหนะ ในการกระทำความผิด หรือเพื่อความสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไป มีอาวุธปืน เครื่อง กระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่เหตุอันควร”

ขณะนี้ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้แล้วจำนวน 2 คน คือ 1. นายชุ่ย หรือ Mr.WIN MON และ 2.นายนาย หรือ Mr.WIN NAING พร้อมทั้งตรวจยึดรถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์หลายรายการ ส่วนนายเล็ก หรือ Mr.Win Tun อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว ซึ่งคนร้ายทั้ง 3 ราย มีพฤติการณ์มั่วสุมเกี่ยวกับ ยาเสพติดอีกด้วย ภายหลังการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การเพิ่มเติมว่า กลุ่มของตนเองได้ร่วมกันก่อเหตุในลักษณะนี้จำนวนหลายครั้ง ภายหลังจากก่อเหตุได้ทรัพย์สินมาจะนำเงินมา แบ่งกัน กรณีที่เป็นรถจักรยานยนต์ หากเป็นรุ่นใหม่ซึ่งขายได้ราคาดีจะขายต่อในกลุ่มแรงงานพม่าด้วยกัน ส่วน รถจักรยานยนต์รุ่นเก่าจะถอดเป็นอะไหล่แยกขาย หลังจากขายได้เงินมาจะนำไปเที่ยวเตร่ และซื้อยาเสพติด อีกทั้งยังตั้งตัวเป็นแก๊งมาเฟีย ออกอาละวาดทั่วภาคใต้ตอนบน โดยเฉพาะ ชุมพร และ สุราษฏร์ธานี มีประวัติปล้นนับสิบราย มีรายได้จากการปล้นทรัพย์หลายล้านบาท  สร้างความหวดกลัวแก่แรงงานต่างด้าว จนไม่กล้าออกไปทำงานให้นายจ้างสร้างความเดือดร้อนแก่นายจ้างชาวไทยอย่างมาก ตำรวจจะติดตามจับตัวให้ได้ทั้งแก๊งต่อไป

 

 

 









Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.