"ลูกชายวัย29ปี" ปรี๊ดแตก! เข้าใจว่าพ่อเลี้ยงแจ้งจับน้องปลูกกัญชา 2 ต้น สุดทน! ยิงดับคาบ้าน
5 มี.ค. 2563, 15:05
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 5 มีค. 63 พ.ต.ท. สมชาย บุญเกิด สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจนาสัก อ.สวี จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยพ.ต.ท.อัมพร พนาพิทักษ์กุล สวป. พ.ต.ต.ฐิติณัฐฏ์ ศรีสังข์ สว.กก.สส..ชุมพร พ.ต.ต.สุวิทย์ เสนาการ สว.สืบสวน สภ.นาสัก หน่วยพิสูจน์หลักฐานชุมพร หน่วยกู้ภัยสวี หน่วยกู้ภัยเขาทะลุ รุดที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 25/12 หมู่ที่ 3 ต.นาสัก เป็นบ้านชั้นเดียวในเนื้อที่หลายสิบไร่แวดล้อมด้วยสวนทุเรียน ภายในห้องนอนพบศพของนายวารินพร เอาชัย อายุ 45 ปี ถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าที่สีข้างด้านขวา บนที่นอนเต็มไปด้วยเลือด ที่พื้นพบปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก ที่ผนังห้องยังมีปืนลูกซองสั้นอีก 1 กระบอก ในที่เกิดเหตุ
นางวิลาวัลย์ เศรษฐพงศ์ อายุ 46 ปี ภรรยาของนายวารินพร ยืนร้องไห้ พร้อมเพื่อนบ้านอีกหลายคน และได้การว่าในช่วงสายๆได้มีนายสุรเกียรติ รัตนชัย อายุ 29 ปี ลูกชายของนางนางวิลาวัลย์ ที่เกิดกับสามีคนเก่า ขับจยย.เข้ามาที่บ้านแล้วสอบถามหานายวารินพร เมื่อรู้ว่าอยู่ในห้องนอนจึงไปเคาะประตูเรียก นายสุรเกียรติได้สอบถามนายวารินพรเรื่องที่น้องชายของนายสุรเกียรติโดนตำรวจจับต้นกัญชาจำนวน 2 ต้นซึ่งปลูกไว้ในสวนหลังบ้าน และมีข่าวว่านายวารินพรที่เป็นพ่อเลี้ยง เป็นผู้แจ้งตำรวจ หลังจากนั้นได้ยินโต้เถียงกัน จนได้ยิงเสียงปืน 1 นัด จึงรีบวิ่งเข้าไปแย่งปืนจากนายสุรเกียรติ จนนายสุรเกียรติหลังจากนั้นนายสุรเกียรติได้ขับ จยย.หลบหนีไป จึงแจ้งตำรวจ
นางวิลาวัลย์ เล่าวว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.นาสัก ได้เข้ามาตรวจสอบที่บ้านพบว่าภายในสวนมีต้นกัญขาจำนวน2ต้นที่ปลูกไว้สำหรับใส่แกง ทำให้ลูกชายคนที่2 ถูกจับไปดำเนินคดี ต่อมามีข่าวลือว่านายวารินพรพ่อเลี้ยงของนายสุรเกียรติเป็นผู้แจ้งตำรวจให้มาจับน้องชาย อาจทำให้เกิดความไม่พอใจ ทั้งที่นายวารินพรมาอาศัยอยู่ในบ้านของตนเองกับแม่เมื่อประมาณ1ปีที่ผ่านมา นายวารินทรทำอาชีพรับจ้างของบริษัทแห่งหนึ่งทางด้านการติดตั้งเวทีแสงสีเสียงตามงานคอนเสริตทั่วไป ใน กทม.นานๆจะกลับบ้านที่ ต.นาสักสักครั้ง ก่อนเกิดเหตุประมาณ1 เดือนที่ผ่านมาก็พึ่งกลับมาที่บ้าน จนมาเกิดเหตุดังกล่าว”
พ.ต.ต. ฐิติณัฐฏ์ ได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับรถ จยย. ของคนร้าย เป็นรถ จยย.ฮอนด้าเวป สำดำน้ำเงิน แต่จำทะเบียนไม่ได้ และเส้นทางหลบหนี คาดว่าน่าจะหลบหนีไปได้ไม่ไกล เพื่อไปหลบทำใจสักระยะและอาจจะเข้ามอบตัวในเวลาต่อไป แต่ตำรวจก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายก่อน ส่วนจะเข้ามอบตัวหรือไม่ก็ต้องรอดูกันอีกที