วันที่ 5 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณศาลา 60 พรรษามหาราชถนนริมน้ำหน้าเมือง สมาชิกสื่อมวลชนจังหวัดกาญจนบุรี ได้จัดเตรียมสถานที่ศาลา 60 พรรษา เพื่อจะจัดงานเลี้ยงเนื่องในวันสื่อสารมวลชน 5 มีนาคม 2563 ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 25 และในช่วงเข้าที่ผ่านมาได้มีการจัดทำบุญให้กับสื่อมวลชนที่ล่วงลับไปแล้ว บริเวณศาลาหลวงปู่เปลี่ยนวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นายสังวร บุญจีน อุปนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยคณะกรรมการสื่อมวลชน,พ้องเพื่อน พี่น้องสาขาสื่อสารมวลชน ร่วมนำอาหารคาวหวาน จตุปัจจัยไทยทานทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่สื่อมวลชนที่เสียชีวิตของจังหวัดกาญจนบุรี อันประกอบไปด้วยนายสมบัติ บูรณนัฏหรือลุงพร,นายยุติติ บุญสวัสดิ์,นายไพบูลย์ จงเจริญ,นายไพโรจน์ มีสวัสดิ์,นายวรายุทธ ธนโชคสว่าง,นายสมทรวง อ่วมสน,นายอาทิตย์ แก้วประดิษฐ์,นายระพีพล อังศุโชติ,นายปรีชา ศรีสถาน,นางสายสมร ศรีสถาน,นายสามารถ บูรณธีระกิจ,นายสมชาย อำนวยเกียรติ,นายฉลวย ไทยรัฐและนางศันสนีย์ วิชุกิจ ทั้งนี้เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับสื่อมวลชนที่เสียชีวิต เป็นสื่อมวลชนที่ได้กระทำคุณงามความดีในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ตลอดจนเป็นการเชิดชูสื่อมวลชนหรือนักข่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาชีพที่มีความเสียสละ อดทน มีเกียรติ

 

นายวุฒิเดช ก้อนทองคำ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่าสำหรับวันนักข่าว  หรือ วันสื่อสารมวลชนแห่งชาติ ในประเทศไทย ตรงกับวันที่ 5 มีนาคม ของทุกปี สิ่งที่ต้องการคือการ ยํ้าให้ทุกฝ่ายตระหนักว่า นักข่าวหรือนักหนังสือพิมพ์นั้นคือ ผู้ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ แทนประชาชนในระบอบประชาธิปไตย เป็นผู้ใช้ปากกาและใช้หน้ากระดาษแสดงความคิดความเห็นแทนประชาชน การมีวันนักข่าวจึงเท่ากับการมีอะไรสักอย่าง ที่เป็นเครื่องเตือนใจนักข่าวทั้งหลายให้ระมัดระวังตัวเอง ไม่เอาสิทธิของประชาชนไปใช้ผิดๆ หรือทำผิดๆจนกลายเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือโดยความคึกคะนอง ทุกครั้งที่สื่อมวลชนติติง วิพากษ์วิจารณ์ใคร จะต้องระมัดระวังอยู่เสมอๆว่า เรากำลังวิจารณ์แทนประชาชน มิใช่วิจารณ์ตามอำเภอใจ หรือตามแต่ใจเรา ดังนั้นถ้าเรามีวันนักข่าวพร้อมกับกำหนดกิจกรรมให้วันนี้ เป็นวันที่มีความหมายในทางสร้างสรรค์ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่นักข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ และจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยรวมในที่สุด.