ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนัญชัย สายสุด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (ผอ.สพป.) อำนาจเจริญ เขต 1 เปิดเผยว่า ตนได้มีนโยบายให้ทุกโรงเรียนเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดตามนโยบายของรัฐบาลและทางสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำหรับโรงเรียนที่ผู้ปกครองพาไปต่างประเทศแล้วมาไม่ผ่านการตรวจแล้ว เข้าไปเรียนร่วมชั้นเรียนกับเด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลอำนาจเจริญนั้น ตนจึงได้สั่งให้ผู้บริหารโรงเรียนปิดโรงเรียนโดยไม่มีกำหนดเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 และเฝ้าระวังในช่วง 14 วัน ตนได้สั่งปิดตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 และอีกหนึ่งโรงเรียนคือ โรงเรียนบ้านโคกช้างฮ้าย ซึ่งทั้งสองโรงเรียนอยู่ในเขตอำเภอเมือง ตนได้ทำหนังสือออกไปแจ้งทุกโรงเรียนว่า หากโรงเรียนไหนมีกลุ่มเสี่ยงให้รีบรายงานเข้ามาและให้ประสานกับทางสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ ส่วนนักเรียนที่มาจากญี่ปุ่นมี 2 คนคือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลอำนาจเจริญ ส่วนโรงเรียนบ้านโคกช้างฮ้ายนั้น ผู้ปกครองไปประเทศเกาหลีมาและไม่เก็บกักตัวมาอยู่กับครอบครัวเลยและมีลูกเป็นนักเรียนอยู่ในบ้านเดียวกันไปโรงเรียนโคกช้างฮ้ายทุกวันจะเล่นกับเพื่อนๆ ถือว่า เป็นกลุ่มเสี่ยงตนก็สั่งปิดโรงเรียนเช่นกัน เพื่อเฝ้าดูอาการของนักเรียนคนนี้และคนอื่นๆ ในครอบครัวและทำความสะอาดโรงเรียน และอาคารสถานที่ โดยการพ่นยาและเช็ดถูโต๊ะในโรงเรียน ซึ่งตนได้สั่งการให้ทุกโรงเรียนเข้มงวดหากมีโรงเรียนไหนไปมีผู้ปกครอง หรือไปกับผู้ปกครองในประเทศที่เสี่ยงไม่ว่าไปเที่ยวกับผู้ปกครองในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศที่เสี่ยงกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ ขากลับอย่าให้เด็กไปโรงเรียนเด็ดขาด โดยให้มีระบบเก็บตัวเฝ้าระวังครบ 14 วัน จนแน่ใจว่าไม่ติดเชื้อโควิด-2019 จึงให้เข้าโรงเรียนสามารถเรียนหนังสือร่วมกับเพื่อนๆ ได้ และยิ่งโรงเรียนไหนมีข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาไปเที่ยวต่างประเทศที่เสี่ยงต้องเข้มงวดเป็นพิเศษห้ามมาสอนในโรงเรียนที่ตนสังกัดอยู่ให้เก็บตัวตามระเบียบของทางราชการเก็บตัวตรวจเชื้อเป็นระยะเวลา 14 วัน กักกันพื้นที่จนแน่นใจว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 จึงให้มาทำหน้าที่การเรียนการสอนได้

          ส่วนบรรยากาศการตื่นตระหนกเชื้อโควิด-19ในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ประชาชนต่างพากันวิตกกังวล และพูดเป็นเสียงเดียวกัน หลังทราบว่า มี 2 โรงเรียน มีผู้ปกครองพาไปประเทศในกลุ่มเสี่ยงมา พอทราบข่าวว่า มีประชาชนนักเรียนไปเกาหลีใต้และญี่ปุ่นมาเกรงว่า เชื้อจะมาแพร่ระบาดติดต่อกันเพราะแต่ละคนไม่ได้มีการเก็บตัวตามระเบียบของทางราชการกำหนดไว้เช่นนี้ และมาใช้ชีวิตอยู่ปะปนกันผู้คนเช่นนี้ ประชาชนชาวอำนาจเจริญที่รู้ข่าวต่างพากันตื่นตกใจหวาดผวากัน และฝากเตือนทางภาครัฐด้วยว่า ก่อนลงจากเครื่องบินหรือลงจากเครื่องมาควรตรวจสอบและกักกันให้แน่นใจว่า คนๆนั้นปลอดภัยไม่มีเชื้อร้าย ไวรัสโควิด-2019 ติดมา จึงปล่อยไปใช้ชีวิตตามปกติไม่ให้มีเล็ดลอดมาที่เจอดังกล่าว และหากติดเชื้อโควิด-19 มาจริง มันจะไม่กระจายไปทั้งเมืองและควรตระหนักถึงเรื่องนี้ด้วย ควรมีมาตรการคุมเข้มกันมากกว่านี้ ประชาชนจะได้สบายใจ และที่อำนาจเจริญหน้ากากอนามัยจะหาซื้อลำบากมาก และหาซื้อไม่ได้เลยมานานแล้ว ทางภาครัฐควรเอามาแจกด้วย