"หนุ่มวัย 34 ปี" หัวใสเปิดร้านขายของชำบังหน้า ที่แท้ขายยาบ้ามอมเมาเยาวชน (ภาพ)
1 มิ.ย. 2562, 13:56
วันที่ 1 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า นายชาตรี จันทร์วีระชัย ปลัดจังหวัดระนอง และจ่าเอกไพรัช แก้วมณี ผบ.ร้อย.อส.จ.รน.1 /เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พร้อมกำลัง ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดระนอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน สังกัด ร้อย.อส.จ.รน.1 เข้าทำการตรวจค้น บ้านเลขที่ 69 หมู่ที่ 8 ต.กะเปอร์ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ภายใต้การสั่งการของ นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง หลังรับแจ้งว่าบ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นร้านขายของชำบังหน้ามีการขายยาเสพติดให้แก่เยาวชนในชุมชน
โดยจากการเข้าตรวจค้นได้ตัวผู้ต้องหา 1 ราย ทราบขื่อว่า นายอนุชา อินรุ่งเรือง อายุ 34 ปี สัญชาติไทย อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ที่ 8 ต.กะเปอร์ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 24 เม็ด พร้อมอุปกรณ์ในการเสพ และธนบัตรที่ใช้ในการล่อซื้อจำนวน 1500 บาท นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจค้นบ้องกัญชาในบ้านหลังดังกล่าวอีกด้วย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนเพิ่มเติมที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดระนอง โดยเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหากระทำความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะได้นำตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.กะเปอร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายชาตรี จันทร์วีระชัย ปลัดจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เป็นผลจากการขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดรายก่อนหน้านี้ โดยได้ข้อมูลมาว่าบุคคลในบ้านหลังดังกล่าวมีพฤติกรรมขายยาเสพติดให้วัยรุ่นในชุมชนโดยเปิดเป็นร้านขายของชำบังหน้า จึงได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดระนอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน สังกัด ร้อย.อส.จ.รน.1 เข้าติดตามพฤติกรรมของ นายอนุชา อินรุ่งเรือง หรือ นาย เค จึงให้สายลับติดต่อล่อซื้อยาเสพติด(ยาบ้า) จำนวน 25 เม็ด ในราคา 3500 บาท โดยเมื่อผู้ต้องหาส่งยาบ้าให้สายลับและสายลับส่งเงินล่อซื้อให้แล้ว ได้มีการทดลองเสพยาบ้ากันจำนวน 1 เม็ด หลังจากนั้นสายลับได้เดินทางออกมาจากบ้านของผู้ต้องหา และส่งมอบยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 24 เม็ด ให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการตรวจค้น พบธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อ จำนวน 1500 บาท อยู่ในกระเป๋ากางเกงของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำมาเทียบกับสำเนาธนบัตรที่ได้ถ่ายไว้ก่อนหน้านี้แล้วปรากฎว่าตรงกัน และเจ้าหน้าที่จึงได้นำยาบ้าออกมาให้ผู้ต้องหาดู โดยผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าเป็นของตนจริงได้จำหน่ายให้ลูกค้าไปจริง ส่วนเงินอีก 2000 บาทที่หายไป ผู้ต้องหาได้จ่ายไปให้กับคนที่นำยาบ้ามาส่งให้ผู้ต้องหาไปก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนี้จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ยังพบบ้องกัญชา โดยผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าเอาไว้ใช้เวลาเสพกัญชาในยามว่าง ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะได้นำตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน สภ.กะเปอร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป