ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2563 ห้องประชุมกองบัญชาการมณฑลทหารบก 24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม พ.อ.พิทักษ์ จันทร์เขียว รอง ผบ.มทบ.24, นางรนิดา เหลืองธิติสกุล หน.สำนักงาน จ.อุดรธานี, นายอุเทน หาแก้ว รอง นพ.สาธารณสุข จ.อุดรธานี และว่าที่ ร.ท.อนุเทพ ศรีดาวเรือง จัดหางาน จ.อุดรธานี ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมพิจารณาเลือกสถานที่ใช้ในการกักตัวเฝ้าติดตามอาการประชาชนเดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ในการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19

 

          โดยที่ประชุมได้หารือข้อจำกัดของแต่ละหน่วย ก่อนที่จะแจ้งให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หารายชื่อบุคคลที่ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่พบมีไข้ จะต้องได้รับการกักตัวเฝ้าติดตามอาการว่า เป็นใคร, เดินทางมาจากไหน, มาถึงประเทศไทยอย่างไร, ตอนไหน, ภูมิลำเนาที่เดินทางกลับ และประสานการเดินทางมาของบุคคลเหล่านั้น จะมีการนำส่งหรือเดินทางมาตามปกติ เพราะถ้าไม่รู้ข้อมูลก็ไม่รู้จะดูแลใคร

 

          จากนั้น พ.อ.พิทักษ์ จันทร์เขียว รอง ผบ.มทบ.24 นำคณะเดินทางไปดูสถานที่จริง แห่งที่ 1 อาคารแฟลตข้าราชการทหารในกรมทหารราบที่ 13 กองพันทหารราบที่ 1 ค่ายพระยาสุนทรธรรมธาดา ถ.มิตรภาพ ต.โนนสูง อ.เมือง เป็นอาคารแฟลต 5 ชั้น จำนวน 32 ยูนิต เป็นอาคารที่มีความมั่นคงแข็งแรง แต่ไม่ได้ใช้งานมานานจะต้องได้รับการปรับปรุง และจัดหาวัสดุอุปกรณ์

 

 

 

 

 

          แห่งที่ 2 อาคารโรงนอนทหาร ในกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 13 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 ค่ายยุทธศิลป์ประสิทธิ์ ถ.มิตรภาพ ต.โนนสูง อ.เมือง เป็นโรงนอนทหารรวมบนชั้น 2 มีห้องน้ำรวมอยู่นอกอาคาร มีสภาพมั่นคงแข็งแข็ง และยังใช้งานตามปกติ หากจะใช้งานต้องจัดหาอุปกรณ์เครื่องนอนใหม่, แห่งที่ 3 เรือนนอน กก.ตชด.24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ ถ.นิตโย ต.หนองบัว อ.เมือง

 

          และในช่วงบ่ายคณะเดินทางไปแห่งที่ 4 อาคารสวัสดิการในโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง กรมชลประทาน บ.โคกสะอาด ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมืองอุดรธานี เป็นอาคารห้องพัก 3 ชั้น 40 ห้อง มีเครื่องปรับอากาศ อาคารประกอบมี ห้องประชุม, ห้องอาหาร และห้องครัว ยังคงใช้งานและมั่นคงแข็งแรง ไม่ต้องปรับปรุงหรือจัดหาอุปกรณ์เพิ่ม