จากกรณี เหตุฆ่านายวารินพร เอาชัย อายุ 45 ปี สามีของ นางวิลาวัลย์ เศรษฐพงศ์ อายุ 46 ปี เป็นแม่ของมือปืนคือ นายสุรเกียรติ รัตนชัย อายุ 29 ปี ลูกชายคนโตของ นางวิลาวัลย์ ที่เกิดกับสามีคนเก่า เนื่องจากสงสัยว่าพ่อเลี้ยงไปแจ้ง ตร.ให้จับน้องชาย กรณีปลูกกัญชา 2 ต้น หลังบ้านของ นางวิลาวัลย์ ที่อาศัยอยู่ร่วมกันทั้ง 4 คน แล้วมือปืนหลบหนีไป ตามข่าวที่นำเสนอมาแล้วนั้น  ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว

 

 

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่  6 มีค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สภ.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร พ.ต.ท.มนัส หมุนวงศ์ รอง ผกก.สส. รก.ผกก. ได้สั่งให้ พ.ต.ท.สมชาย บุญเกิด สว.ส เจ้าของคดี เชิญตัวนางวิลาวัลย์ ภรรยาของ นายวารินพร และแม่ของ นายสุรเกียรติ มือปืน ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อสรุปสำนวนคดี นำเสนอต่อศาลจังหวัดหลังสวน ขออนุมัติหมายจับ นายสุรเกียรติ ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา หลังจากที่สอบปากคำ นางวิลาวัลย์ ยังให้ปากคำว่า ผู้ที่ลงมือยิงของลูกชายของตนเอง เพราะเมื่อไปสอบถาม นายวารินพร พ่อเลี้ยงในเรื่องดังกล่าวแต่ เกิดโต้เถียงกัน ทำให้ นายสุรเกียรติ เกิดบันดาลโทสะ ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้น ยิ่งใส่ นายวารินพร ไป 1 นัด แล้ว นางวิลาวัลย์ เข้าไปห้ามพร้อมทั้งแย่งปืน จน นายสุรเกียรติ วิ่งออกไปขับ จยย. หลบหนี

นางวิลาวัลย์ กล่าวว่า “เชื่อว่า นายวารินพร คงไม่ได้ไปแจ้งตำรวจเรื่องกัญชาเพราะเป็นต้นกัญชาต้นเล็กๆ ที่ขึ้นมาในสวนทุเรียน ไม่ใช่เกิดจากการตั้งใจปลูกให้ใหญ่โต แต่เมื่อเห็นมันขึ้นก็คิดว่าจะเอาไว้ใส่แกงเวลาปรุงอาหาร แต่มีคนที่ไม่ชอบครอบครัวของตนเอง พยายามพูดใส่ร้ายว่าที่บ้านตนเองมีต้นกัญชา จนทำให้ตำรวจเข้าไปตรวจสอบและจับตัวน้องชาย นายสุรเกียรติ ไปดำเนินคดี แต่คดีก็เสร็จสิ้นไปแล้ว ต่อมาก็มีคนที่ไม่ชอบครอบครัวของ นางวิลาวัลย์ ไปพูดอีกว่า นายวารินพร เป็นผู้ไปแจ้งตำรวจ ทำให้ ลูกชายคนโตเกิดความไม่พอใจ เมื่อไปถามจาก นายวารินพร ก็เกิดโต้เถียงและบันดาลโทสะจนถึงขั้นยิงกันตาย”   

นางวิลาวัลย์ กล่าวต่ออีกว่า อยากให้ นายสุรเกียรติ เข้ามอบตัวกับตำรวจ เพื่อต่อสู้คดีไม่อยากให้หลบหนี ในเวลานี้ตนเองพยายามโทรศัพท์หาลูกชายแต่ไม่สามารถติดต่อได้ และไม่ทราบว่าไปหลบอยู่ที่ไหน ส่วนงานบำเพ็ญกุศลศพของ นายวารินพร นำไปไว้ที่วัดท่าทอง อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เนื่องจากมีญาติพี่น้องของ นายวารินพร หลายคน ตนเองก็ไปช่วยงานทุกคืน

ทางด้าน ทีมตำรวจสืบสวน กองบังคับการ ตร.ภูธร จ.ชุมพร เปิดเผยว่า ตำรวจชุมพร ไม่รอให้มีการมอบตัว หลังจาก เกิดเหตุก็ได้ออกติดตามตัวทันที โดยได้แจ้งไป สถานีตำรวจทุกที่ ใน จ.ชุมพร  ให้ตรวจสอบ รถ จยย. และ ตัวนายสุรเกียรติ จนได้ข้อมูลมาว่า นายสุรเกียรติ หลังเกิดเหตุ นายสุรเกียรติ อยู่ในอาการคล้ายคนเมาเหล้า ขับ จยย.ไปเรื่อยเปื่อย ล่าสุดได้รับแจ้งจาก ทหารประจำด่านความมั่นคง ต.ปากทรง อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร รอยต่อระหว่าง จ.ชุมพร กับ จ.ระนอง ห่างจากชายแดนประเทศเมียนมา เพียง 40 กม. บนถนนสายหลังสวน-ราชกรูด โดยทหารบอกว่า ในช่วงค่ำของเมื่อวานนี้ ได้มีชายลักษณะเหมือนคนร้าย ขับ จยย. ฮอนด้าเวฟ ผ่านมาที่ด่านตรวจ แต่อยู่ในลักษณะคนเมา  ทหารจึงได้ให้พักที่ทำการด่าน เพื่อให้หายเมา หลังจากชายดังกล่าวหลับไป เมื่อตื่นก็ เห็นขับ จยย.ต่อไป ในเส้นทางไป จ.ระนอง เมื่อมาถึงช่วงเช้า จึงได้รับทราบข้อมูลว่า เป็นคนร้ายรายนี้ ทำให้ ตำรวจชุดสืบสวน จ.ชุมพร รีบเดินทางไปหาข้อมูล และติดตามหาตัวมือปืนยิงพ่อเลี้ยงรายนี้ทันที คาดว่าน่าจะได้ตัวในเร็วๆ นี้แน่นอน