ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เพจ Red skull society เผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับหญิงสาวชาว จ.สุราษฎร์ธานี ที่เดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่เมื่อเดินทางกลับมายัง จ.สุราษฎร์ธานี กลับไม่กักตัวเพื่อควบคุมโรค ยังมีการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงการเดินทางไปร่วมงานแต่งงานในพื้นที่ อ.คีรีรัฐนิคม จนทำให้ผู้ที่ทราบข่าวดังกล่าว เกิดอาการหวาดกลัว เกรงว่าจะติดเชื้อโควิด- 19 พร้อมเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไข

 

 

นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ภายหลังเกิดกระแสวิจารณ์ ได้สั่งการให้สาธารณสุข อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และสาธารณสุขอำเภอคีรีรัฐนิคม เข้าตรวจสอบ ภายหลังจึงทราบว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวที่ตกเป็นข่าวนั้นเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลี ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม และเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 ผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งพบว่าเป็นการผ่านขั้นตอนการตรวจโรค ของสนามบินอย่างถูกต้อง หลังจากนั้น จึงได้เดินทางกลับมายังจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในช่วงเช้าของวันที่ 1 มีนาคม ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย จากสนามบินดอนเมือง มายังท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี 

แต่เมื่อมาบ้านพักในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี กลับถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง จึงได้เดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ไม่พบว่ามีใครแต่อย่างใด จึงไม่ถูกกักตัวจากนั้นวันที่ 3 และ 6 มีนาคม ได้เดินทาง ไปร่วมงานแต่งงาน ที่ อ.คีรีรัฐนิคม  จนนำมาสู่การวิพากษ์วิจารณ์หนักขึ้น และขณะนี้ จึงได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลคีรีรัฐนิคมตรวจเช็คอาการก็ไม่พบว่ามีใครแต่อย่างใด

 

 

 

 

 

 

ด้าน นายชาญวิทย์ สิรภักดี นายอำเภอคีรีรัฐนิคม ร่วมกับสาธารณสุขอำเภอคีรีรัฐนิคม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคีรีรัฐนิคม ได้ติดตามตัวมาซักถาม และตรวจอาการในเบื้องต้น แต่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ จึงได้กำชับให้หญิงสาวคนดังกล่าวกักตัวอยู่ในบ้านพักของ นางวิมลทิพย์  ผู้เป็นแม่ ที่ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี จนถึงวันที่ 15 มีนาคม 2563 โดยมอบหมายให้ทีมงานของสาธารณสุขตรวจอาการช่วงเช้าของทุกวันภูมิลำเนาเดิมที่อำเภอคีรีรัฐนิคม เป็นระยะเวลา 14 วัน และมอบหมายให้สาธารณสุขอำเภอจัดเจ้าหน้าที่เข้าดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว