วันที่ 6 มี.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอเบตง เป็นประธานเปิดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-2019) และการจัดทำหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตนเอง โดยมี นายมะอูโซะ สาลัง นายกเทศมนตรีตำบลธารน้ำทิพย์ นางมธุรส ดีเสมอ วิทยากรจากสถาบันพัฒาแรงงาน 24 ยะลา  พร้อมด้วย ปลัดเทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ สมาชิกเทศบาล พนักงานเทศบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลธารน้ำทิพย์ เจ้าหน้าที่และผู้เข้าอบรมกว่า 150 คนเข้าร่วมอบรมในโครงการฯดังกล่าว

พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอเบตง  กล่าวว่า ทางเทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ได้จัดอบรมสอนทำหน้ากากอนามัยที่ทำจากผ้าเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันป้องกันโรคไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 และไข้หวัดใหญ่ ให้กับสมาชิกของกลุ่ม   อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กลุ่มสตรี จิตอาสา เพื่อลดปัญหาหน้ากากอนามัยขาดตลาด และมีราคาสูง ซึ่งหน้ากากอนามัยแบบผ้าเมื่อใช้แล้วยังสามารถซักทำความสะอาด นำมาใช้ซ้ำ ลดการเกิดขยะ ลดโลกร้อน จากการใช้หน้ากากอนามัยแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้ด้วย โดยวัสดุอุปกรณ์ในการทำไม่ยุ่งยาก มีจักรเย็บผ้า ผ้านิ่มหลากสีสัน ยางยืด เข็ม ด้าย และใยสังเคราะห์ โดยได้เชิญวิทยากรจากสถาบันพัฒนาแรงงาน 24 ยะลา มาสอนทำหน้ากากอนามัยแบบผ้าในการอบรมในครั้งนี้

นางมธุรส ดีเสมอ วิทยากรจากสถาบันพัฒนาแรงงาน 24 ยะลา  กล่าวว่า  ในช่วงที่หลายคนเกาะติด และกังวลกับสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 มาตรการป้องกันที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เน้นย้ำเสมอ คือ หลีกเลี่ยงไปยังสถานที่แออัด เลี่ยงสัมผัสผู้ป่วย ล้างมือบ่อย ๆ และสวมหน้ากากอนามัย แต่เมื่อทุกคนหันมาสวมใส่ แน่นอนว่าหน้ากากอนามัยย่อมไม่เพียงพอ ขาดตลาด ซึ่งขณะนี้หลายคนต่างหาซื้อกันไม่ได้ ประชาชนมีความตื่นตัวในการป้องกันตนเอง ทำให้หน้ากากอนามัยตามร้านขายยา ในพื้นที่ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เริ่มขาดตลาด เนื่องจากเป็นที่ต้องการของประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเป็นจำนวนมาก จึงได้รับเชิญมาสอนทำหน้ากากอนามัยที่ทำจากผ้า เพื่อใช้ในชีวิตประจำวันป้องกันโรคไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 และไข้หวัดใหญ่ ให้กับผู้เข้าอบรม เพราะหน้ากากอนามัยแบบผ้ามีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคได้เช่นเดียวกัน และสามารถซักทำความสะอาด นำมาใช้ซ้ำ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ลดการเกิดขยะ และมลพิษจากการกำจัดหน้ากากอนามัยดังกล่าว และเตรียมแจกฟรีให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ทั้งเด็ก และผู้สูงอายุ ต่อไป

นางมธุรส กล่าวอีกว่า สำหรับหน้ากากอนามัยที่ทำจากผ้าในครั้งนี้ ได้ออกแบบมา 3 แบบด้วยกัน 1.แบบผ้าทั่วไป 2.แบบครอบจมูกพร้อมสายรัด และ 3.แบบ 2 ชั้น ผสมใยสังเคราะห์ ส่วนวิธีการตัดเย็บไม่ยาก สามารถใช้จักรเย็บผ้า หรือเย็บด้วยมือ โดยใช้ผ้าฝ้าย เนื่องจากมีคุณสมบัติในการซับน้ำ และระบายความร้อนได้ดี ซึ่งช่วยป้องกันได้ทั้งไวรัสโคโรน่า อีกทั้ง เมื่อตัดเย็บร่วมกับแผ่นกรองหน้ากากอนามัย ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ด้วย และช่วยลดปัญหาหน้ากากอนามัยขาดตลาด ได้ นางมธุรส กล่าว