ผวจ.นราธิวาส ระดมจิตอาสา เดินตระเวนแจกหน้ากากผ้า 9,000 ชิ้น นำร่องที่ปาดีป้องกันโควิด-19
10 มี.ค. 2563, 14:41
วันที่ 10 มี.ค. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. ที่บริเวณลานเทศบาลประชาสำราญ หน้าที่ว่าการ อ.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส นายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.นราธิวาส ได้เป็นประธานในการระดมกำลังเจ้าหน้าที่จิตอาสา เจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลสุไหงปาดี เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลปะลุรู และเจ้าหน้าที่อำเภอสุไหงปาดี จำนวน 500 คน นำร่องเป็นแห่งแรกของ จ.นราธิวาส ในการเดินรณรงค์และนำหน้ากากผ้า จำนวน 9,000 ชิ้น เดินตระเวนแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี หลังจากที่หน้ากากอนามัยทุกชนิดมีจำหน่ายไม่เพียงพอต่อความต้องการ ของพี่น้องประชาชนซื้อหามาสวมใส่ป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19
ซึ่งการเดินรณรงค์และแจกจ่ายหน้ากากผ้า เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด - 19 ให้กับพี่น้องประชาชนในครั้งนี้ ได้จัดออกเป็น 8 กลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมี อสม.เจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลสุไหงปาดีและจิตอาสารวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้การเดินรณรงค์แจกจ่ายหน้ากากผ้า โดยเจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลสุไหงปาดี จะเป็นผู้แนะนำวิธีใช้รวมไปถึงการป้องกัน ซึ่งหน้ากากผ้านี้เมื่อใช้แล้ว สามารถนำไปซักแล้วกลับมาใช้ได้ตามดั่งเดิม
ด้านนายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงปาดี เปิดเผยว่า โครงการแจกหน้ากากผ้าจะครอบคลุมทั้ง 8 ชุมชนในเขตเทศบาล และ 6 ตำบลของ อ.สุไหงปาดี ในวันที่ 20 มีนาคม 63 ที่จะถึงนี้ เนื่องจากเรามีประชากรมากถึง 57,472 คน ซึ่งพื้นที่ที่เฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษ คือ จุดที่มีประชาชนพลุกพล่าน อาทิ สถานีรถไฟ สถานพยาบาล มัสยิดและวัด เราจะมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวัง ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน
ด้าน นายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.นราธิวาส เปิดเผยว่า จังหวัดนราธิวาสมีมาตรการเข้มงวดในการป้องกันและสกัดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด - 19 เรามีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังทุกจุดที่เป็นเส้นทางเข้าออก ทั้ง ท่าอากาศยานและด่านพรมแดนทั้ง 3 แห่ง โดยมีสถิติผู้เดินทางมายังพื้นที่ จ.นราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. ถึง 9 มี.ค. 63 จำนวน 142,764 คน เป็นชาวต่างชาติ 29,981 คน เราพบผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 4 คน แต่ผลออกมาทั้ง 4 คน ไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 แต่อย่างใด จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ อย่าหลงเชื่อกระแสข่าวต่างๆ ที่ทำให้บั่นทอนจิตใจเรา