รัฐบาล ยืนยัน ยังไม่ปิดศูนย์ควบคุมโรค เพื่อดูอาการที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
12 มี.ค. 2563, 11:25
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงยืนยัน กระแสข่าวการปิดศูนย์ควบคุมโรค เพื่อกักกันตัวติดตามดูอาการ ที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี รวมถึง ศูนย์ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ โดยให้ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยง ไปกักตัวเฝ้าระวังตัวเองในภูมิลำเนา ว่า ศูนย์ดังกล่าวยังคงเปิดอยู่ เพราะยังมีแรงงานจากเกาหลีใต้ อยู่อีกจำนวนหนึ่ง และยังต้องมีเพื่อรองรับบุคคลที่ทยอยเดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง รวมถึง คนไทย ที่เดินทางกลับมาโดยไม่มีใบรับรองแพทย์ หรือเป็นบุคคลที่ไม่สามารถกักกันตัวเองยังภูมิลำเนาได้ จากเหตุผลหลายอย่าง อาทิ ชุมชนไม่เห็นด้วย หรือครอบครัวอยากให้อยู่ในที่กักกัน เพราะเห็นว่ามีความปลอดภัยมากกว่า ซึ่งทุกศูนย์ต้องเฝ้าระวังตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข ที่จะควบคู่กับบางกลุ่มที่สามารถกักกันตัวเองที่พัก หรือภูมิลำเนา
อย่างไรก็ตาม มีการออกมาตรการที่เข้มข้น ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้อำนวยการศูนย์ ในการคัดกรองตั้งแต่ต้นทาง 3 ขั้นตอน ด้วยการยกเลิก Visa On arrival และยกเลิกฟรีวีซ่า ให้กับ 2 ประเทศ 1 เขตปกครองพิเศษ ประกอบด้วย เกาหลีใต้ อิตาลี และฮ่องกง จะต้องมีการขอวีซ่าที่สถานทูตและจะมีการคัดกรองขั้นต้น ด้วยการขอดูใบรับรองแพทย์ในะยะเวลา 3 วัน ว่าปลอดจากความเสี่ยงของโรคโควิด -19 จึงจะออกวีซ่าให้ ซึ่งจะทำให้มีการได้รับวีซ่าน้อยลง เดินทางเข้าไทยได้น้อยลงไปอีก และเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย ซึ่งเป็นปลายทางก็มีการตรวจคัดกรองอีกชั้นหนึ่ง หากพบว่าใครมีไข้ จะส่งเข้าสถานพยาบาลทันที หากไม่มีไข้ก็จะส่งไปยังศูนย์ควบคุมโรค หรือกลับไปกักตัวที่ภูมิลำเนา โดยจะมีเจ้าหน้าที่ติดตามตรวจสอบไม่ให้ละเมิดกฎหมายและดำเนินการลงโทษหากฝ่าฝืน
สำหรับทางการรัฐเซีย ที่มีความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกัน ในการให้วีซ่าเดินทางเข้าประเทศได้นั้น เป็น 1 ในอีกหลายประเทศ ที่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศ Visa On arrival เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ ซึ่งวันนี้กระทรวงการต่างประเทศ จะรายงานให้นายกรัฐมนตรี รับทราบและหากมีความคืบหน้าจะชี้แจงให้เพิ่มเติม ส่วนการออกมาให้ข้อมูลข่าวหลายครั้ง และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในการนำเสนอข่าวเรื่องของการปิดศูนย์กักกันดังกล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติม ตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อสร้างความเข้าใจ ไม่ได้ขัดแย้งกับการให้ข่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลักการเป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย ระบุ แต่ยังไม่ปิดในทันที เพราะยังมีขั้นตอนและกระบวนการ และความจำเป็นในการรองรับกลุ่มเสี่ยง