มท.3 แนะจัดทำแผนพัฒนาชุมชนต้องยึดหลักตามแนวพระราชดำริ "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"
12 มี.ค. 2563, 19:37
วันนี้ ( 12 มี.ค. 63 ) เวลา 15.00 น. ณ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) ได้กล่าวถึงกรณีการจัดเวทีประชาคมคืนข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นประชาชน ในพื้นที่หมู่บ้านโคกยามู ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ว่าการจัดเวทีประชาคมคืนข้อมูลในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อคืนข้อมูลในด้านเศรษฐกิจ สังคมและข้อมูลทางกายภาพที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ทำการสำรวจรวบรวม เพื่อให้ชาวบ้านโคกยามูได้ร่วมตรวจสอบและยืนยันความถูกต้อง พร้อมกระตุ้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ระดมความคิดและชูปัญหาที่แท้จริงของชุมชน เพื่อนำมารวบรวมและจัดทำแผนในการพัฒนาชุมชน โดยมีสถาบันปิดทองหลังพระฯ ร่วมกับส่วนราชการ จ.นราธิวาส จัดเวทีประชาคม ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ เป็นที่ปรึกษา ตามยุทธศาสตร์พระราชทาน "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเป็นต้นเเบบในการจัดทำเเผนพัฒนาชุมชนสู่การขยายผลไปยังพื้นที่อื่น
ด้านนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ตนในฐานะประธานการประชาคมคืนข้อมูลเศรษฐกิจ สังคมและจัดทำแผนพัฒนาหมู่บ้านโคกยามู ต.ไพรวัน ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ที่จังหวัดนราธิวาสและภาคส่วนราชการได้ร่วมกับสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ บูรณาการการทำงานโดยน้อมนำองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริ หรือ "ศาสตร์พระราชา" มาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาตามสภาพสังคมและภูมิศาสตร์ เพื่อให้เกิดการพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดให้มีกิจกรรมเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างรายได้เสริมให้กับราษฎรในพื้นที่ เช่น กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่แปลงใหญ่ พื้นที่ 66 ไร่ และกลุ่มวิสาหกิจหัตถกรรมกระจูด ซึ่งมีประเด็นทั้งหมด 4 ประเด็น ประกอบด้วย ปัญหาดินและน้ำที่มีความเป็นกรด เป็นดินทราย ไม่อุ้มน้ำและธาตุอาหารต่ำ ไม่เหมาะกับการเพาะปลูก การคัดแยกและแหล่งรวบรวมขยะที่ถูกสุขลักษณะเป็นรูปธรรม รวมถึงสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ถนนและไฟฟ้า และตลาดในการรองรับผลิตทางการเกษตร
ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายของรับฟังปัญหาของหน่วยงานภาครัฐ คือ ความต้องการทราบปัญหาและความต้องการของพี่น้องประชาชนในชุมชน เพื่อจะได้ร่วมดำเนินการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกันกับความต้องการของพี่น้องประชาชน ซึ่งได้มีการสั่งการและกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดใส่ใจกับปัญหาเเละความต้องการในทุกพื้นที่ เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยให้บรรจุไว้ในแผนพัฒนาชุมชน เพื่อให้เกิดการเเก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งทุกหน่วยงานจะต้องประสานความร่วมมือกัน เเละบูรณาการกัน ไม่ใช่ปล่อยให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งทำคนเดียวหรือ ต่างคนต่างทำ ต้องร่วมกันสร้างเเบบอย่างที่ดีในการเเก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน สู่การพัฒนาฐานรากที่เข้มเเข็งโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง