"หนุ่มอุดร" กักตัวอยู่ในบ้านไร่ปลายนา เฝ้าสังเกตอาการ "โควิด-19" หลังกลับมาจากไต้หวัน
13 มี.ค. 2563, 08:26
วันนี้ (12 มี.ค.63) คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดอุดรธานี นำโดยนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้ลงพื้นที่ศูนย์กักตัวแยกโรคโควิด – 19 ที่ บริเวณอาคารลูกเสือ ค่ายตชด.24 เสนีย์รณยุทธ อ.เมือง จ.อุดรธานี และกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน ที่ 1 จังหวัดอุดรธานี เพื่อพบปะกับแรงงานไทย (ผีน้อย) ที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง และญาติที่มารอรับกลับบ้าน ภายหลังนายกรัฐมนตรีประกาศปิดศูนย์กักตัวแยกโรคโควิด – 19 ทั่วประเทศ
โดยนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ได้กล่าวพบปะกับแรงงานไทยและญาติว่า จากนี้จะปล่อยให้แรงงานทุกคนกลับไปดูแลเฝ้าระวังตัวเองที่ภูมิลำเนา ขอให้ญาติได้เฝ้าดูอาการบุตรหลานอย่างใกล้ชิดทำตามคำแนะนำของแพทย์ที่ได้ชี้แจ้งไปก่อนหน้านี้ จากนี้จะมีกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดอุดรธานี เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด อำเภอ ตำบล อสม. เฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดทุกวัน ขอเน้นย้ำขอให้ญาติๆ ได้เฝ้าดูอาการและเพื่อเป็นการป้องกันควรแยกให้ลูกๆ หลานๆ ได้อยู่คนเดียว อาจจะหาบ้านให้อยู่โดยลำพังก่อนเป็นต้น และอย่าเพิ่งตั้งวงทานข้าวร่วมกัน ขอให้ผ่าน 14 วันนี้ไปก่อนเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ทุกคนรวมทั้งญาติๆ ด้วย
ขณะที่ญาติๆ หลายคน เปิดเผยว่า หลังจากให้กลับบ้านก็จะจัดเตรียมบ้านให้อยู่อีกหลัง หรืออยู่ในบ้านสวนคนเดียวไปก่อน ทั้งนี้จะเตรียมอุปกรณ์ในการทำอาหาร หม้อหุงข้าว หม้อนึ่งข้าวเตรียมไว้ให้ลูกหลานด้วย พร้อมจะปฏิบัติตามคำแนะนำของหมออย่างใกล้ชิด หากมีอาการไข้ก็จะรีบโทรแจ้งทันที ส่วนถามว่ามีความรู้สึกกังวลใจไหมหลายคนบอกว่า ก็ยังวิตกอยู่ แต่ก็จะป้องกันให้ดีที่สุด เพราะทางคุณหมอให้ความมั่นใจว่าหากมีอาการไข้หรือสุ่มเสี่ยงจะเป็นโควิด 19 แล้วให้รีบโทรแจ้งทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังปล่อยตัวแรงงานกลับไปเฝ้าระวังที่ภูลำเนา คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดอุดรธานี พร้อมสื่อมวลชน ได้ลงพื้นที่ติดตามแรงงานคนไทยรายหนึ่ง พบว่า หลังออกจากค่าย ญาติได้พาแรงงานไปเฝ้าสังเกตอาการที่บ้านสวนปลายนา โดยให้แรงงานรายนี้พักอาศัยอยู่คนเดียว โดยจะมีแม่มาค่อยส่งอาหารให้ในตอนเช้าของทุกวัน จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขตำบลและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน โทรศัพท์มาสอบถามหรือมาหาเพื่อสอบถามอาการทุกวัน จนกว่าจะพ้นระยะ 14 วัน
นายอั๋น แรงงานไทยในไต้หวัน เปิดเผยว่า ระหว่างการเฝ้าสังเกตอาการระยะเวลา 14 วันนี้ หากพ้นกำหนดนี้ไปคงทำให้ตัวเองและพ่อแม่สบายใจได้ แต่ละวัน ตนจะเก็บไปใบไม้ไปทำปุ๋ยและทำสวนพอเพียง เพราะตนตั้งใจกลับมาเพื่อจะทำเกษตรพอเพียงอยู่แล้ว ยืนยันไม่ขอกลับไปใช้แรงงานที่ต่างประเทศอีกแล้ว อยู่ที่ไหนคงไม่สุขใจเท่าบ้านเราอีกแล้ว ส่วนเงินที่ได้จากการทำงานก็จะใช้หนี้ ที่เหลือก็ทำมาหากินพอมีพออยู่ตามอัตภาพ
ทั้งนี้รายงานเฝ้าระวังโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ณ วันที่ 12 มีนาคม 63 พบว่า จังหวัดอุดรธานีไม่มีผู้ป่วยยืนยัน มีบุคคลเข้าเกณฑ์ตรวจเสมหะหาเชื้อ 50 ราย รู้ผลไม่พบเชื้อ 50 ราย ส่วนการเฝ้าระวังผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง 988 คน ครบระยะเฝ้าระวัง 14 วัน 308 คน คงเหลือ 680 คน