"ดั่งดวงหฤทัย" รีเมคเละ แฟนละครโอด ซีจี-ตัดต่อ ทำผิดหวังหนัก ดันบทคู่รองจนแกนเรื่องบิดเบี้ยว
13 มี.ค. 2563, 14:55
กำลังกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก สำหรับ ดั่งดวงหฤทัย ละครรีเมคสุดยิ่งใหญ่ ของผู้จัด ไก่ วรายุฑ ที่ได้ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี โคจรร่วมงาน คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส เป็นครั้งแรก แต่หลังจากปล่อยออกอากาศเพียงแค่ 3 ตอน กลับเจอกระแสสวนกลับจากแฟน ๆ ที่ต่างแสดงความผิดหวัง ทั้งในเรื่องคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ (CG), การตัดต่อ, การเล่าเรื่องที่พยายามยัดเหยียดบทบาทของคู่รอง ให้โดดเด่นขึ้นมา จนกลบคู่หลัก และส่งผลให้เส้นแกนหลักของเรื่องบิดเบี้ยวไป อย่างน่าเสียดาย
โดยแฟนละครต่างพากันแสดงความคิดเห็นกระหน่ำในโซเชียลฯ ทั้งในทวิตเตอร์ และผุดกระทู้ในพันทิป ฝากถึงผู้จัดกันอย่างครึกโครม เช่นเดียวกับเนื้อหาในกระทู้ต่อไปนี้ จากสมาชิกพันทิปชื่อว่า littlepaul ซึ่งได้วิจารณ์บท และการตัดต่อละครดั่งดวงหฤทัย บอกเป็นความรู้สึกหลังรับชมละคร จากใจแฟนละครเดนตายคนหนึ่ง ระบุว่า มันเป็นความเจ็บปวดมากสำหรับเจ้าของกระทู้ ที่ต้องเขียนกระทู้วิจารณ์บทละครเรื่องนี้ แต่ก็ขอพลีชีพเขียน เพราะไม่อยากเจอบท และการตัดต่ออะไรแบบนี้ในละครเรื่องไหน ๆ อีกเลย
วิจารณ์บท และการตัดต่อละครดั่งดวงหฤทัย จากใจแฟนละครเดนตายคนหนึ่ง
ว่าด้วยเรื่องบทละคร เราเข้าใจดีค่ะ ว่าการเล่าเรื่องเพื่อทำละครกับการเขียนนิยายนั้นต่างกัน และจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนบางอย่างเพื่อให้เรื่องสนุกขึ้น มีมิติขึ้น เราไม่มีปัญหาถ้าการปรับนั้น จะทำให้ตัวละครนั้นดีขึ้น เรื่องราวดูสนุกขึ้น แต่ถ้าพยายามเสริมเติมแต่งมากเกินไป มันจะทำให้หลุดโฟกัสจากแกนหลักของเรื่องเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเป็นห่วงตั้งแต่เรารู้ว่า จะมีการเพิ่มตัวร้ายขึ้นมา
นวนิยายดั้งเดิม มี 822 หน้า ทั้งเรื่องดำเนินเรื่องโดยรังสิมันต์ และทรรศิกา มีกล่าวถึงคู่ทยุติธร และมนิสรา ไม่แน่ใจว่าถึง 20 หน้า หรือไม่ พื้นเรื่อง คือเรื่องราวความรักที่โรแมนติกมาก ๆ ของรังสิมันต์ และทรรศิกา ที่ดำเนินท่ามกลางผลประโยชน์ของแคว้น ความขัดแย้ง ระหว่าง หน้าที่ต่อแผ่นดิน และความต้องการของหัวใจตัวเอง ซึ่งสุดท้าย คนที่ยอมทิ้งผลประโยชน์ของแคว้นเพื่อหัวใจ คือรังสิมันต์ คนที่พร้อมประกาศศึก เพื่อให้ได้ตัวหญิงที่ตนรัก ก็คือรังสิมันต์ และคนที่ยอมเสียสละ ปล่อยคนที่ตนรักกลับบ้านไป ก็คือ รังสิมันต์
สุดท้าย ของท้ายสุด คนที่ยอมเสียเหมืองเพชร ยอมเสียหน้า ถูกถอนหมั้น ก็คือรังสิมันต์อีกเช่นกัน ทุกอย่างที่ทำเพื่อให้ได้ทรรศิกาแห่งพันธุรัฐมาครอง และความปรองดองของทั้งสามแคว้น ทั้งหมดนี้คือ เรื่องราวของนวนิยายดั่งดวงหฤทัย
ส่วนเรื่องของทยุติธรและมนิศรา กล่าวถึงไม่มากนัก ในนิยายทยุติธร ไม่ได้แสดงอะไร นอกจากความไม่รู้คิดผิดจังหวะ ตัดสินใจไม่ถูก ส่วนมนิศรา เป็นผู้หญิงที่ดีที่น่ารักปกติคนนึง มีความดีงามในแบบกุลสตรีเรียบร้อย ไม่ค่อยมั่นใจ แต่เก่งในสิ่งที่เธอถนัด และนิสัยไม่เข้ากับรังสิมันต์ ซึ่งในนิยายก็กล่าวถึงไม่มาก ไม่ได้บอกว่ารู้สึกผิดหรือคำนึงถึงแคว้นของตัวเองหรือไม่ แต่เธอช่วยชีวิตรังสิมันต์ จึงได้รางวัลเป็นการตอบแทน
ดังนั้น สัดส่วนในนวนิยาย จึงเป็นเรื่องของทรรศิกากับรังสิมันต์ 80% ทยุติธร และมนิศรา 20%
ทีนี้ บทละครเวอร์ชั่นปัจจุบันพยายามเพิ่มบททยุติธร และมนิศรา ให้เป็น 50 : 50 มันจะเกิดอะไรขึ้น??? เราอยากบอกว่า คนเขียนบทจะต้องถมหลุมที่ใหญ่มาก เพราะจะต้องเขียนจาก 20 ให้มันเป็น 50 ดังนั้น ต้องไปบิดคาร์แรคเตอร์ของตัวละครเดิมจากนิยาย ให้มันน่าสนใจขึ้น ต้องสร้างที่มาที่ไปให้ตัวละครทั้งคู่ เพราะเดิมมันไม่มี แล้วยังต้องสร้างสตอรี่ของทั้งคู่ขึ้นมาใหม่ เพราะเดิมมันไม่มีอยู่
ทำแม้กระทั่งขโมยบทที่เป็นของรังสิมันต์ และทรรศิกา เพื่อให้ตัวละครดูไม่แย่เกินไปนัก แต่เนื่องจากไม่สามารถหักคาร์แรคเตอร์เดิมให้มาทับไลน์คู่หลักได้ เลยกลายเป็นตัวละครไบโพล่าไป
การเพิ่มบทคู่รองให้มาเท่าคู่หลัก จะทำได้ก็ต่อเมื่อ ตัวละครคู่หลัก คู่รอง มีความเกี่ยวข้องกัน ต้องมาเจอกันในสถานที่เดียวกัน ต้องมีบทที่ประชันกัน แบบนี้สามารถปรับได้ เพราะเป็นการเล่าเรื่องในเหตุการณ์สถานที่เดียวกัน
แต่เรื่องของทยุติธร และมนิศรา นั้นอยู่คนละที่กับตัวละครคู่หลัก ดังนั้นผลของการ เพิ่มเรื่องของคู่รองเป็น 50 - 50 จึงกลายเป็นการพยายามเล่าเรื่องสองเรื่อง ที่ต่างกรรมต่างวาระ ไม่เกี่ยวข้องกันในเวลาเดียวกัน ผลคือคนดูไม่สามารถโฟกัสใด ๆ ได้เลย คนส่วนใหญ่ไม่สามารถจับใจความเรื่องใหญ่สองเรื่องได้ในเวลาเดียวกัน
ยังไม่พอ บทละคร ยังไปขยายความเพิ่มทางฝั่งทานตะ ซึ่งเราเคยติงแล้ว (และถูกด่าเละ) ว่าต้องระวังจะออกทะเลทานตะ และก็เป็นจริงตามนั้น นอกจากเรื่องจะออกทะเล น้ำหนักเรื่องยังทิ้งไปทางฝั่งคู่รองอีกด้วย (ทานตะคือฝั่งของมนิสรา)
ดังนั้น สัดส่วนตัวละครมันจึงบิดเบี้ยวไป กลายเป็นเรื่องราวของรังสิมันต์ และทรรศิกา ถูกกล่าวไม่ถึงครึ่งนึงในการเล่าเรื่อง และไม่ได้ถูกขยี้ไปให้สุดในแบบของการเล่าเรื่องตามขนบละคร การเล่าเรื่องของรังสิมันต์ และทรรศิกา ใช้บทตามนิยายแทบจะไม่มีการปรุงแต่งใด ๆ ถามว่าดีหรือไม่ คือดี แต่มันไม่สุด มันไม่มีการตีความขยี้คาร์แรคเตอร์ให้ลงไปสุดแบบที่มันควรจะสื่อออกมา แบบที่เกริ่นไว้ตามนิยายข้างต้น
เพราะคนเขียนบท ไม่ได้โฟกัสที่จะขยี้คาร์แรคเตอร์ตัวละครหลักออกมา เพราะเสียเวลาไปปั้นในสิ่งที่มันไม่มีอยู่ ซ้ำร้ายการตัดต่อและการเล่าเรื่องยังไปโฟกัสที่คู่รอง เพราะการดำเนินเรื่องของรังสิมันต์ และทรรศิกาแทบไม่มีความต่อเนื่องในการเล่าเรื่องเลย
เรื่องของคู่รอง ปั้นให้ตายอย่างไรมันก็ไม่เมคเซ้นส์ เพราะมันไม่มีสตอรี่มาแต่นิยาย คู่หลักก็เล่าเรื่องไปตามนิยาย ไม่ขยี้ไม่เน้นใด ๆ ทั้งสิ้น สรุปคือไปไม่สุดทั้งสองคู่ แถมแอร์ไทม์คู่พระนาง ยังไม่ถึงครึ่ง เพราะต้องแชร์ไปให้กับคู่รอง และตัวร้ายต่าง ๆ
ดังนั้น บท และการตัดต่อดั่งดวงหฤทัยในเวอร์ชั่นล่าสุด จึงมาแต่โครงเรื่อง เหมือนเอารังสิมันต์ กับทรรศิกา มาโปะไว้บาง ๆ แต่ไส้ในยัดอะไรมาไม่รู้ที่ไม่มีในนิยาย อารมณ์ของเราเหมือนสั่งซื้อ surgical mask 50 ชิ้น แต่พอแกะออกมา มีแมสอยู่ 10 ชิ้น โปะหัวท้ายอย่างละ 5 แผ่น ตรงกลาง คือ พลาสเตอร์ยาลายการ์ตูนน่ารักอย่างดี
ทั้งหมดทั้งปวงเราโทษผู้จัดละครคนเดียว เพราะ คือคนที่มีอำนาจในภาพรวมละครทั้งหมด ถ้าอยากให้เรื่องยาวขึ้น ควรขยายความเรื่องของรังสิมันต์กับทรรศิกา มันมีเรื่องการเมืองซับซ้อนอยู่ใต้คู่นี้ ไม่เคยมีเวอร์ชั่นไหนขยี้ออกมา มันอาจจะยากเกินไป แต่มันคือความแตกต่างที่สร้างสรรค์กว่าการสร้างนางร้ายโง่ ๆ มาแย่งพระเอก และดรอปคาร์แรคเตอร์ของพระเอกนางเอกลง
วันนี้เราค่อนข้างโกรธ ในการเขียนบทเจ้าหลวงรังสิมันต์ละเมอชมมนิสราให้ทรรศิกาฟัง รังสิมันต์คือนักรบที่เก่งกาจ ใครเข้าใกล้เขาไม่ได้ขนาดนั้น ถ้าเจ้าตัวไม่อนุญาต นึกว่าบทจะทำให้มันน่ารัก โดยการให้เจ้าหลวงรู้ว่าเป็นนางเอก แล้วให้เจ้าหลวงแกล้งด้วยการใช้ให้หยิบสบู่ ถูหลังอะไรให้ แบบนี้มันจะน่ารักมาก แต่นี่กลับไปเพ้อถึงผู้หญิงอื่นให้ทรรศิกาฟัง รังสิมันต์ในนิยายไม่เคยสนใจสตรีใด ไม่ใส่ใจมนิสราเลย เรียกว่าผู้หญิงคนนั้น ออกจะรังเกียจด้วย เพราะหักหน้าเขาแรงมาก
ด้วยคาร์แรคเตอร์ของรังสิมันต์เองค่อนข้างจะติดลบอยู่แล้ว ดังนั้น คุณงามความดีในเรื่องด้วยการไม่แลหญิง ไม่ยกย่องหญิงใดเสมอนางเอก จึงไม่ควรไปลดทอนลง
การทำลายคาร์แรคเตอร์ของตัวละครหลักให้แย่ลง เป็นสิ่งที่เรารับไม่ค่อยได้ ซึ่งมันมักจะเกิดขึ้นเมื่อพยายามใส่ตัวร้ายเข้ามา นี่ตัวร้ายไม่ทันมา พระเอกโดนดรอปไปเฉยเลย อัดอั้นมาก ยังไม่รวมถึงเรื่องอื่น ๆ เช่นซีจีใด ๆ นักแสดงจะดี จะเก่งขนาดไหน ถ้าบทไม่เป็นใจ ตัดต่อไม่รู้เรื่อง เล่นให้ขาดใจตาย คนดูก็ไม่เก็ท เสียดายงบลงทุน