จากกรณีที่มีผู้โพสต์ข้อความ “มีเคสลูกค้าไอหนัก พักที่เอสทูนะครับ ไปโรงพยาบาล ม.บูรพาตอนสองทุ่ม แพทย์แจ้งว่าปอดติดเชื้อ ให้แอดมิด แต่ลูกค้าไม่ยอม ผมเลยปฏิเสธการพักต่อไป และแนะนำให้แอดมิดตามคำแนะนำของแพทย์ ลูกค้าเป็นชาวนอร์เวย์ บินตรงมาไทยเลย แต่ไม่แน่ใจว่าปกปิดข้อมูลไหม ผมเลยขออนุญาตแจ้งไปที่ วีลเลอร์ นะครับ เผื่อคืนนี้หากลูกค้าเช็คเอ้าท์ไป แล้วจะไปพักครับ ใครอยู่แถวชลบุรี บางแสน ศรีราชา ระวังกันไว้ด้วยนะครับ” พร้อมทั้งนำภาพชาวต่างชาติที่มีอาการเจ็บป่วยที่บริเวณหน้าโรงแรมเอสทูมาเผยแพร่ สร้างความปั่นป่วนให้กับชาวชลบุรีอย่างมากมาย เพราะเกรงว่าจะมีผู้ป่วยจากไวรัสโคโรนา หรือโควิค 19 ออกมาบริเวณชายหาดบางแสน จะทำให้มีการแพร่กระจายของเชื้อโควิค 19

 

ภายหลังที่มีข่าวออกมาทางโรงพยาบาลมหาวิทยาบูรพา จึงได้ออกข่าวชี้แจงว่า คนไข้ยังไม่เข้าเกณฑ์ครบ 3 ข้อคือ บินตรงมาจากนอร์เวย์เลย โดยไม่แวะที่ใด ไม่มีไข้ ผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจ ไม่สมัครใจอยู่กลับไป ตรวจสอบกับทางโรงแรมคนไข้ได้ Check out ออกไปแล้ว และมีไฟท์กลับวันนี้ อาการขณะออก Check out ก็สบายดี ไม่ได้ไอ ไม่มีไข้ตั้งแต่แรก

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่โรงแรมเอสทู บางแสน (S2 Hotel) ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ปรากฏว่าได้มีพนักงานมีการนำน้ำยาพ่นฆ่าเชื้อไปฉีดที่โรงแรมดังกล่าว พนักงานกล่าวว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพียงฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อห้องเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นจึงได้เดินทางไปพบกับนางขวัญใจ จันทร์กระจ่าง แม่ค้าขายอาหารตามสั่งที่บริเวณหน้าโรงแรมเอสทู ชายหาดบางแสน สอบถามได้ความว่า ชาวต่างชาติที่ป่วยนั้น มาอยู่ในประเทศไทยหลายวันแล้ว และมากินอาหารที่ร้านประจำ โดยเฉพาะข้าวกระเพรา ไข่ดาว ไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด ที่สำคัญคนต่างชาตินั้นชอบดื่มสุรา โดยเฉพาะยี่ห้อชีวาสวันละ 2-3 ขวด และไม่ค่อยกินข้าว คาดว่าอาการป่วยเกิดขึ้นมาจากไม่กินข้าวมากกว่า และดื่มสุราเยอะ ไม่ได้ป่วยจากไวรัสโควิค 19 แต่อย่างใด การที่มีการไปโพสต์แบบนี้ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมากมาย แล้วใครจะมาเที่ยวบางแสน ทำให้การท่องเที่ยวเสียหายหมด การค้าขายก็ไม่ดีอยู่แล้ว มาปล่อยข่าวอย่างนี้แม่ค้าจะอยู่ได้อย่างไร