เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานถึงบรรยากาศที่บ้านพักเลขที่ 183 ถ.วิเศษกุล ต.ทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง  หลังจากที่ นายชวน  หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร  ทำให้วันนี้ที่บ้านพักดังกล่าวคึกคักไปด้วย ข้าราชการจากหลายสังกัด ตำรวจ ประชาชนในจังหวัด และบางคนเดินทางมาต่างจังหวัด รวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่น  ที่ได้เดินทางมอบมาลัย และช่อดอกไม้แสดงความยินดีในโอกาสที่รับตำแหน่ง  เช่น นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พล.ต.ต.นุกูล ไกรทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เป็นต้น  โดยเฉพาะ นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ที่ได้กล่าวกับ นายชวน ว่า ขอแสดงความยินดี และชื่นชมที่ได้รับตำแหน่งเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ได้เป็นหลักชัยให้แก่ชาวตรัง และประเทศชาติ  โดยหากมีอะไรให้ทางจังหวัดได้สนับสนุนก็พร้อม เพื่อเป็นกำลังใจในการทำหน้าที่ต่อไป
        ขณะที่ นายชวน หลีกภัย กล่าวว่า การรับหน้าที่ประธานสภาในครั้งนี้ ไม่ได้กดดัน และไม่ได้แตกต่างจากสมัยที่เคยดำรงตำแหน่งมาแล้วครั้งหนึ่ง  ถ้ายากก็ยากเหมือนกันทุกยุคทุกสมัย แต่จำนวนสมาชิกแตกต่างกัน  จากสมัยก่อนมี 300 คน แต่สมัยนี้มี 500 คน แต่ก็ไม่เป็นปัญหา  อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้าในขณะนี้ก็คือ เรื่องความสะดวกในการประชุมของสมาชิก  เพราะสถานที่ประชุมต้องไปเช่าอาคารของเอกชน ความพร้อมจึงไม่สมบูรณ์  คงต้องใช้เวลาปรับตัวในการทำงานสักระยะหนึ่ง และเห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานเหนื่อย  ส่วนเรื่องอื่นๆ ของการทำงานก็ยากเป็นเรื่องปกติทุกเรื่อง  แต่เชื่อว่านักการเมืองทุกคนรักสถาบัน จะต้องช่วยกันรักษาภาพของสภาให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน  โดยสภาไม่มีชีวิต คนหรือสมาชิกเท่านั้นที่จะทำให้สภาออกมาหน้าเป็นอย่างไร  เชื่อว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเพื่อนๆ สมาชิก แต่ต้องใช้ความพยายามในการทำงานร่วมกัน
        โดยตนเองจะยึดแนวทางการปฏิบัติตามพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานในวันเปิดสภาอย่างชัดเจนว่า  บทบาทของสมาชิกนั้นมีความสำคัญ ในการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกมีผลต่อความมั่นคง ต่อสุขทุกข์ของประชาชน  จึงต้องร่วมมือกันทำงานโดยความสุจริต รอบคอบ และร่วมมือกันทุกฝ่าย  ทั้งนี้ ตนได้พูดคุยหารือกับรองประธานสภาทั้ง 2 คนเรียบร้อยแล้ว ในการแบ่งหน้าที่กันทำงานว่า จะใช้บทบาทของรัฐสภาให้เป็นประโยชน์เป็นประโยชน์ต่อระบอบประชาธิปไตย  เพราะฝ่ายนิติบัญญัติเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยซึ่งมีความสำคัญมาก  ทุกคนที่อยู่ภายใต้งานฝ่ายนิติบัญญัติ จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการเป็นส่วนหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย  และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประชาธิปไตยให้ประเทศได้รับผลประโยชน์จากระบอบประชาธิปไตย  ส่วนตัวยืนยันว่าระบอบประชาธิปไตยไม่ได้เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ แต่อุปสรรคเกิดจากคน
        "ถ้าได้คนดีเข้าไปทำงานก็สามารถนำพางานนั้นๆ ไปได้ด้วยดี ถ้าคนไม่ดี คนโกง ทุจริตไป ก็มีปัญหาทุกแห่ง  จึงต้องระลึกถึงพระบรมราโชวาทของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่เคยพระราชทานไว้ ต้องส่งเสริมให้คนดีปกครองบ้านเมือง ซึ่งในที่นี้หมายถึงทุกระดับ ทั้งตำบลหมู่บ้าน เทศบาล จังหวัด ประเทศ  โดยตั้งใจนับจากนี้จะเข้าไปรณรงค์ เพราะได้มีโอกาสคุยกับศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ว่า  ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานเงิน เพื่อให้องคมนตรีไปทำโครงการสร้างเด็กดีในโรงเรียน  ตนเองก็พยายามใช้รัฐสภาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบทบาทอำนาจของประธาน ให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมของประเทศในด้านนี้ให้ได้"
 

        ผู้สื่อข่าวถามว่า ประชาชนคาดหวังในการทำหน้าที่ของท่านมากหรือไม่ในยุคที่แข่งขันกันดุเดือด  นายชวน กล่าวว่า การแข่งขันเป็นเรื่องปกติ มีมาทุกสมัย แต่เที่ยวนี้ดูเหมือนว่าคะแนนใกล้เคียงกันหน่อย ดูน่าจะตื่นเต้นหน่อย  แต่ว่าโดยปกติเมื่อมีการแข่งขันกัน เมื่อฝ่ายใดชนะก็จบไป ก็ทำหน้าที่ร่วมมือกันต่อไป  ส่วนตัวไม่กดดันอะไร แม้เสียงจะใกล้เคียงกัน จะทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าการประชุมให้ดีที่สุด  จึงไม่ต้องเตรียมตัว หรือต้องใช้ไหวพริบอะไรควบคุมมาก เพียงแต่ต้องใช้กฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับ ในการควบคุมการประชุม ซึ่งสมาชิกก็อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ข้อบังคับต่างๆ อยู่แล้ว  ทั้งนี้ อาจจะมีบ้างที่เจตนา หรือไม่เจตนาที่ฝ่าฝืนข้อบังคับ แต่สามารถดูแลได้โดยเรียบร้อยทุกครั้ง  เพราะท้ายที่สุดทุกคนก็ต้องยอมรับระเบียบ กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ  แม้วันแรกที่ทุกคนเห็นการประชุมก็อาจเป็นห่วงว่า จะเอาอยู่หรือไม่ แต่ตนเองเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร
        ส่วนการตัดสินใจว่ าร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ หรือมีข้อแม้เงื่อนไขเรื่องต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ และเรื่องปัญหาภายในพรรค นายชวน กล่าวว่า คงต้องไปถามหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค