เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"เสมา 3" ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พร้อมส่ง กศน.เดินหน้าช่วยเหลือประชาชน สู้ไวรัสโควิด-19


16 มี.ค. 2563, 11:47



"เสมา 3" ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พร้อมส่ง กศน.เดินหน้าช่วยเหลือประชาชน สู้ไวรัสโควิด-19




          ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เขตพญาไท สังกัดสำนักงาน กศน.กรุงเทพมหานคร พร้อมเยี่ยมชมการจัดหลักสูตรรู้เท่าทันป้องกันฝุ่น PM 2.5 และเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และให้กำลังใจประชาชนในชุมชนอินทามระ 11 โดยมีนายปรเมศว์ ศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นางสาวจำนรรจา ขอบชิต ผู้อำนวยการ ศูนย์ กศน.เขตพญาไท ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และนายอุดม เผือกงาม ประธานชุมชนอินทามระ 11 พร้อมชาวบ้าน ภาคีเครือข่าย ตัวแทนชุมชนในพื้นที่เขตพญาไท ให้การต้อนรับ

 

 

          ดร.กนกวรรณ กล่าวว่า "การลงตรวจราชการทุกแห่ง เพราะต้องการไปให้เห็นสภาพการทำงานจริงๆ ของพื้นที่ ในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน รวมถึงอุปสรรคปัญหา เพื่อนำไปสู่การหาแนวทางในการส่งเสริม พัฒนาและปรับปรุงการทำงานของหน่วยงานการศึกษาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ต่อการจัดการศึกษาเรียนรู้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งวันนี้ได้ตั้งใจมาที่ กศน.เขตพญาไท ซึ่งถือว่าเป็นแห่งแรกของหน่วยงานสังกัด กศน.กรุงเทพมหานคร ที่เดินทางมาเยือน

          ซึ่งจากการรายงานผลการดำเนินงาน ต้องขอแสดงความชื่นชมในการนำนโยบาย กศน. WOW WOW ไปสู่การปฏิบัติ ด้วยความทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างดีเยี่ยม จนมีความก้าวหน้าในหลายๆด้าน โดยเฉพาะการจัดการศึกษาสำหรับทหารกองประจําการ

 



          กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ฯ และสำหรับผู้พิการทางสายตา รวมไปถึงส่งเสริมพัฒนาทักษะอาชีพที่มีความโดดเด่น ร่วมกับภาคีเครือข่าย ซึ่งเป็น 1ในนโยบายด้าน Good Parnership อย่างเป็นรูปธรรม และขอฝากให้จัดหลักสูตรการศึกษาเพื่ออาชีพที่สอดคล้องกับบริบทของสังคมยุคใหม่ เช่น การจัดทำดอกไม้ประดิษฐ์ต่างๆ เพราะนอกจากจะเป็นรายได้แล้ว ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย รวมถึง การจัดพื้นที่ในการแสดงผลงานเพื่อส่งเสริมการจำหน่ายผลผลิตจากฝีมือนักศึกษาผู้พิการทางสายตา และขอให้ ครูกศน.ทุกคนจงภูมิใจในศักดิ์ศรีของการเป็นครู กศน. และรักษาความดีที่มุ่งมั่นในการจัดการศึกษาเพื่อประชาชนเช่นนี้ตลอดไป”

 

 

          จากนั้น ดร.กนกวรรณ รมช.ศธ.ได้เดินทางไปยังชุมชนอินทามระ 11 ซึ่ง กศน.เขตพญาไท ได้จัดโครงการพัฒนาสังคมและชุมชน หลักสูตรรู้เท่าทันป้องกันฝุ่น PM 2.5 และเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) ขึ้นตามนโยบาย "กระทรวงศึกษาห่วงใยประชาชน" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าอบรบได้มีความรู้ ความเข้าใจสาเหตุของการเกิดฝุ่น PM2.5 และเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตประจำวัน และรู้วิธีการป้องกันและปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องเพื่อให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM2.5 และเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดย กศน.เขตพญาไท ร่วมกับ ศูนย์บริการสาธารณสุข 11 ประดิพัทธ์ เขตพญาไท จัดกิจกรรมให้ความรู้ในการป้องกันภัยจากฝุ่น PM2.5 และแนะนำให้ความรู้ในการเฝ้าระวังป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และสามารถนำไปปฏิบัติ หรือประยุกต์ใช้ในการดำเนินการอย่างเหมาะสมตามบริบทของพื้นที่ รวมถึงการสอนทำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ โดยมี นางยุพาพร หงส์ชูเวช นางสุพัตรา วิทยบุษราคัม พยาบาลวิชาชีพชำนาญการจาก ศูนย์บริการสาธารณสุข 11 ประดิพัทธ์ เขตพญาไท เป็นวิทยากรให้ความรู้ รวมทั้งกิจกรรมการทำหน้ากากผ้าป้องกัน โดยมีประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมรับการอบรมดังกล่าวในวันนี้ กว่า 50 คน

 

 

          โดย ดร.กนกวรรณ ได้พบปะพูดคุย ให้กำลังใจผู้เข้าร่วมโครงการด้วยความชื่นชม จากนั้นได้เดินเยี่ยมเยียน แจกหน้ากากอนามัยที่ผ่านการอบฆ่าเชื้อ และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้กับประชาชนในชุมชนด้วยความเป็นกันเอง พร้อมกันนี้ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ คุณยายศรีสอางค์ ลักษณวิจารณ์ หรือที่รู้จักกันในชุมชนว่า "คุณยาย 4 แผ่นดิน" อายุ 94 ปี ที่อาศัยอยู่เพียงลำพังคนเดียว พร้อมทั้งมอบหน้ากากผ้า และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ทั้งนี้ได้ย้ำให้ กศน.เขตพญาไท อำนวยความสะดวกและดูแล ช่วยเหลือคุณยายอย่างใกล้ชิดอีกด้วย


          ดร.กนกวรรณ รมช.ศธ. กล่าวตอนหนึ่งว่า “การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชุมชนอินทามระ 11 ในวันนี้ ตนมีความตั้งใจอย่างยิ่งที่จะมาให้ขวัญกำลังใจครู กศน. เจ้าหน้าที่ และภาคีเครือข่ายที่มุ่งมั่นในการทำหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชน ที่สำคัญไปยิ่งกว่านั้น คือ ต้องการมาเยี่ยมเยือน และให้กำลังใจประชาชนทุกท่านที่กำลังตกอยู่ท่ามกลางภาวะการแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพราะจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคมเท่านั้น แต่ยังลุกลาม รุนแรงไปถึงคุณภาพชีวิตในทุกมิติของประชาชน ซึ่งแม้รัฐบาลได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปควบคุมดูแลการจำหน่ายหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ที่เป็นส่วนผสมสำคัญในการผลิตเจลแอลกอฮอล์ของแต่ละโรงงานเพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสกักตุนสินค้าและวัตถุดิบดังกล่าวแล้ว แต่หน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ก็ยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ตนจึงมีนโยบายให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงาน กศน. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เข้าถึงการให้การศึกษาแก่ประชาชนทุกช่วงวัย ทั้งด้านพัฒนาสังคม ชุมชนและทักษะชีวิต จัดโครงการช่วยเหลือประชาชนขึ้น เพื่อสอนผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้า และผลิตเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือใช้เอง ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ในสภาวะปัญหาการขาดแคลนเช่นนี้ โดยการประสานความร่วมมือจากวิทยากรด้านสาธารณสุขทั่วประเทศ เพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้องในการจัดกิจกรรมดังกล่าวร่วมกับวิทยากรที่มีทักษะความรู้ในการสอนผลิตหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และแจกจ่ายให้กับประชาชน โดยผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ กศน.เขต/อำเภอ ทุกแห่งทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

 

          ซึ่งชุมชนแห่งนี้ถือว่า เป็นแห่งแรกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เช่นเดียวกัน ที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยือนถึงหน้าบ้านด้วยความตั้งใจ และเมื่อได้มาเห็นการมีส่วนร่วมในชุมชนที่เข้มแข็ง ตนรู้สึกประทับใจและขอแสดงความชื่นชมด้วยใจจริง ขอให้ทุกท่านจับมือสร้างวัคซีนที่เข้มแข็งเพื่อชุมชนร่วมกัน เราจะสู้ไปพร้อมกัน โดยไม่ทิ้งให้ใครไว้ข้างหลัง และเชื่อมั่นว่าทุกคนจะผ่านเหตุการณ์เลวร้ายนี้ไปด้วยกันอย่างแน่นอน ขอขอบคุณ ครูกศน. ประธานชุมชน และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ทุกท่านที่เข้มแข็ง เพราะทุกๆแรงใจของการมีส่วนร่วม คือ พลังที่ยิ่งใหญ่สำหรับลูกหลานและคนในชุมชนของเราต่อไปในอนาคต ทุกอย่างต้องเริ่มที่ตัวเรา ฝึกช่วยตนเองก่อนที่จะช่วยผู้อื่น สร้างความเข้าใจและถ่ายทอด แบ่งปันสิ่งที่ได้ ความรู้ที่ถูกต้องให้กับคนรอบตัว สิ่งเหล่านี้จะเป็นเกราะที่แข็งแรงในการเป็นภูมิคุ้มกันชั้นเยี่ยมสำหรับทุกคนในชุมชนต่อไปอย่างยั่งยืน”  ดร.กนกวรรณ  กล่าว

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.