เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ศูนย์ข้อมูลฯ" แถลงยืนยัน "โควิด-19" ในประเทศไทยยัง อยู่ระยะที่ 2 (LIVE)


16 มี.ค. 2563, 16:11



"ศูนย์ข้อมูลฯ" แถลงยืนยัน "โควิด-19" ในประเทศไทยยัง อยู่ระยะที่ 2 (LIVE)




เมื่อเวลา 15.45 น. ศูนย์ข้อมูล COVID-19 แถลงมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 16 มีนาคม 2563 ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาลฯ ทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า

การประกาศจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่จะติดตาม รายงาน และรับแจ้งข่าวสาร เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 จัดตั้งเป็นศูนย์กลางบริหารจัดการสถานการณ์ทั้งหมด โดยมี รมต. ทุกกระทรวง, ผู้เชี่ยวชาญ, แพทย์, สถาบันต่างๆ มาประชุมร่วมกัน 

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังจากการประชุม ศูนย์โควิด ครั้งที่ 1 เป็นเวลา 5 ชั่วโมงครึ่ง โดยรวมรัฐมนตรีทุกกระทรวง มีมติเห็นพ้องต้องกัน หลายประเด็นจบลงที่นายกรัฐมนตรีขออำนาจตัดสินใจ
 



ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่า แม้เราได้เตือนเป็นระยะๆ ว่า การระบาดของโรคโควิด-19 เป็นที่รับรู้ทั่วไป ว่าอยู่ในขั้นตอนที่ 2 ที่ประชุมยังคงยืนยันว่า เรายังอยู่ในระยะที่ 2 ตามกฎเกณฑ์ที่ได้วางไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเข้าสู่ระยะที่3 ก็ต่อเมื่อ

1. พบคนไทยติดเชื้อกันเอง โดยไม่พบว่าผู้แพร่เชื้อมาจากต่างประเทศ แสดงให้เห็นความรุนแรงของโรค 
2. พบการแพร่เชื้อเป็นจำนวนมาก 
3. พบหลากหลายพื้นที่ คับขันเกินกว่าจะคงอยู่ระดับ 2

ในเบื้องต้น การประชุมคณะกรรมการฯ จะต้องนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนก็มีผลเลย เพราะว่าไม่ได้อยู่ในอำนาจ ครม. เป็นเรื่องของสธ. สั่งการเอง ตามพรบ.โรคติดต่อ แต่บางเรื่องต้องนำเสนอ ครม. จึงจะมีผลถัดไปในวันรุ่งขึ้น บางเรื่องอาจะการศึกษาต่อ การไปศึกษาต่อเป็นเพียงไปดูวิธีปฏิบัติอย่างให้ขัดต่อกฎหมาย
 


สำหรับการเตรียมพร้อมรับมือสู่ระดับ 3 ในด้านต่างๆ มีดังนี้ 
ด้านสาธารณสุข ได้เตรียมสถานพยาบาล/เตียง/รพ. ทุกแห่ง เพื่อให้ปรับตัวรองรับสถานการณ์ เตรียมเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ให้พร้อมอยู่เสมอ
เตรียมเวชภัณฑ์ ให้พร้อมสำหรับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนและประชาชน 

ด้านข้อมูลข่าวสาร จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ ผ่านสายด่วน 1111 

ด้านต่างประเทศ จะมีประสานกับประเทศต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบกับยกเลิกวีซ่า ซึ่งหลายประเทศเข้าใจ  ซึ่งคนไทยในต่างประเทศจะจัดตั้งทีมไทยแลนด์ ในทุกประเทศเพื่อประสานงานคนไทยในต่างประเทศ ในการนำเวชภัณฑ์ต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเติม

ด้านมาตรการการป้องกัน จะมีการยกระดับความเข้มงวดในการเข้าประเทศมากขึ้น ทุกคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศต้องมีใบรับรองแพทย์ อายุไม่ น้อยกว่า 3 วัน 

สำหรับเทศกาลสงกรานต์ ที่เคยให้หยุดยาว 11-12-13-14-15 เม.ย.  จะทำให้ประชาชนเดินทางมากขึ้น เสี่ยงต่อการแพร่กระจายมากขึ้นที่เพิ่งต้องระวังอย่างมาก ซึ่งมีความเสี่ยงเกิดจากในการเดินทาง (ในรถบัส/รถทัวร์ ฯลฯ), การสังสรรค์ต่างๆ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาด จึงยกเลิกวันหยุดที่ 13-15 เม.ย.  แต่จะชดเชยวันหยุดอื่นๆ แทนในปีนี้ เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งจากสถิติการเดินทาง มีปชช.เดินทางกันจำนวนมาก ดังนั้นจึงควรป้องกันไว้ก่อน

ขอความร่วมมือทุกหน่วยงานให้ปิด หยุดกิจการที่มีคนชุมนุมเยอะๆ โดยมีเกณฑ์คือ มีคนมารวมกันมากๆ  มีการรวมตัว/ร่วมกันเป็นประจำ มีกิจกรรมที่ทำร่วมกัน เช่น ร้องตะโกน เชียร์ มีการอยู่ใกล้กันเกิน 1 เมตร 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.