ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้อง ศปก.สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ รอง ผบก. พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการติดตามตัว “น้องอิหว่า” โดยเชิญนางรัชนก ทองเบ้า อายุ 45 ปี และ นายชัยณรงค์ วงศ์นุกูล อายุ 56 ปี แม่และสามี ของ นางวนิดา วงศ์นุกูล ที่หายตัวไปพร้อม น้องอิหวา มาร่วมรับฟัง

 

โดย พล.ต.ต.นันทชาติ ได้สอบถามแม่และสามีว่า มั่นใจแค่ไหนว่าศพผู้หญิงดังกล่าวเป็น น.ส.วนิดา และการอยู่กินฉันท์สามีภรรยา ซึ่งทั้งสองตอบว่าลักษณะคล้าย น.ส.วนิดา เพราะฟันหน้าไม่มีและมีรอยผ่าตัดไส้ติ่ง และการอยู่กินฉันท์สามีก็ปกติ อาจมีการทะเลาะกันตามประสาสามีภรรยา แต่ไม่เคยลงไม้ลงมือตบตี ทำร้ายร่างกาย สาเหตุการหนีออกจากบ้านเชื่อว่าหนีไปหานายอ้วน ชาวบุรีรัมย์ ที่ญาติต่อให้

 

เวลาต่อมา พ.ต.ท.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี และ ร.ต.อ.นิธิศ โชคบัณฑิต รอง สว.สส.ได้แจ้งว่าได้ติดตามสืบสวนหาและพบ น.ส.วนิดา และน้องอิหวา ซึ่งได้หนีไปอยู่กับนายบุญมี ปูดวงรัมย์ อาย 36 ปี อยู่ที่ 42 หมู่ 18 ต.หูทำนบ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ นำตัวกลับมาถึง จ.อุดรธานี แล้ว พล.ต.ต.นันทชาติ จึงได้นำตัวทั้งสองเข้ามาในห้อง ศปก.สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อนางรัชนก และ นายชัยณรงค์ เห็น น.ส.วนิดา และ น้องอิหวา ต่างตกตะลึง และร้องไห้โผเข้ากอดลูกและหลานด้วยความดีใจ ต่างพร่ำต่อว่า “ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมไม่ติดต่อมา แม่เสียใจต้องกอดศพร้องไห้ แม่จะตายแล้ว” น.ส.วนิดา และน้องอิหวา ได้กอดนางรัชนกและกราบขอโทษ

 

 

 

 

จากนั้น น.ส.วนิดา ได้นำนายบุญมี เข้ามานั่งเผชิญหน้ากับนายชัยณรงค์ พร้อมกับได้ชี้แจงว่า ตนได้แอบคบหาดูใจกับนายบุญี มาได้ 2 ปีกว่าแล้ว โดยญาติติดต่อให้ จนมั่นใจว่านายบุญมีรักตนจริง แม้กระทั่งตนป่วยก็ยังโทรมาสอบถาม จึงได้ตัดสินใจพาลูกหนีไปอยู่กับนายบุญมี ซึ่งพ่อแม่และญาติพี่น้องนายบุญมีก็ดีกับตน และพากันไปทำงานโรงงานที่ จ.สระแก้ว ซึ่งตนรู้ว่าผิดที่คบซ้อน แต่ตนอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่กับนายบุญมี ขอสาบานว่าจะรักกันตลอดไปและจะขอเดินเคียงข้างและอยู่กับสามีใหม่ตลอดไป ขอบคุณสามีเก่าที่ดูแลตนและลูกมาตลอด ส่วนสาเหตุที่ไม่โทรศัพท์ติดต่อกลับมาหาแม่และญาติ เพราะโทรศัพท์และซิมการ์ดพัง กะว่าจะทำงานหาเงินซื้อโทรศัพท์ใหม่ จึงจะโทรมาหาแม่

 

จากนั้น น.ส.วนิดา ได้พาน้องอิหวา และนายบุญมี ไปกราบเท้าขอขมานางรัชนก ซึ่งนางรัชนก ได้อวยพรให้รักกันอย่าทอดทิ้งกัน มีอะไรให้โทรติดต่อมา และพาหลานกลับเยี่ยมแม่ อย่าขาดการติดต่อ ซึ่งแม่เคยเสียใจกับการกระทำของลูกมาหลายครั้ง และขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย จากนั้น น.ส.วนิดา ได้พาน้องอิหวา และนายบุญมี สามีใหม่ ไปกราบเท้าขอขมานายชัยณรงค์สามีเก่า ซึ่งนายชัยณรงค์กล่าวอวยพร ว่าขอให้ครองรักกันตลอดไป ขอให้ลูกตั้งใจเรียนหนังสือ ฝากนายบุญมีให้ดูแลภรรยาและลูกให้ดี ให้ทำมาหากินร่ำรวย ส่วนตนจะไปบวชตลอดชีวิต

 

นายชัยณรงค์ วงศ์นุกูล อายุ 56 ปี ที่กำลังจะกลายเป็นอดีตสามีของ น.ส.วนิดา เปิดเผยว่า หลังจากไปหย่ากันแล้ว ตนจะขอไปบวชตลอดชีวิต ซึ่งตนทำใจได้แล้ว ตั้งใจจะไปทางธรรมะอยู่แล้ว 7 ปีก่อนเมียก็เคยหนีไปเหมือนอย่างครั้งนี้มาแล้ว พอตนว่าจะบวชเมียก็กลับคืนมา ส่วนเรื่องงานที่ตนทำ ก็ได้ไปลาออกแล้ว ว่าจะมาดำเนินการเรื่องเงินประกันสังคมเสร็จก็จะไปบวช ซึ่งตนไม่โกรธไม่แค้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าจะแค้นไปทำไม ตนเห็นเขามีความสุขก็ดีใจแล้ว เพราะที่ผ่านมาตนเป็นผู้ให้อยู่แล้ว เขาเคยเป็นแบบนี้ไปกับคนนั้น 2 เดือน ไปกับคนนี้เป็นปี แล้วก็กลับมา ตนก็ยังดูแลเขา เมื่อมาเป็นแบบนี้ตนก็เลยทำใจได้

 

“ส่วนเรื่องลูกนั้นก็เป็นลูกของเขานั่นแหล่ะ ถึงจะเป็นลูกของผมก็เป็นลูกของเขา ถึงหย่าแล้วไม่มีชื่อผม ไม่มีนามสกุลผมก็ไม่เป็นไร ส่วนที่ว่าเขาไปกับผู้ชายคนนี้ ผมไม่เคยรู้เรื่องเลย แต่ว่าเมื่อเกิดขึ้น เรื่องความเคียดแค้นไม่มี ไม่ได้คิดว่าจะไปตีไปฆ่าเขา เพราะว่าผมเป็นผู้ให้อยู่แล้ว ถึงเขาจะไม่ได้อยู่กับผม ผมก็ดีใจ ขอให้เขามีความสุขความเจริญก็พอ และคิดว่าที่ผมไปบนบานศาลกล่าวถึงทำให้เขาได้กลับมา แต่ว่าหลังจากนี้ไปผมจะบวชตลอดชีวิต”

 

นายชัยณรงค์ บอกอีกว่า เรื่องนี้ถ้าแฟนใหม่เขามาบอกกับตนตรง ๆ ว่าข้อยฮักเมียเจ้า ถ้าเมียตนรักเขาก็จะให้ไปอยู่ด้วยกันเลย ขอให้มีความสุข ขอให้มีอยู่กันนาน ๆ หลังจากนี้ก็จะให้เขามาหย่าให้ตน หลังหย่าแล้ว คงไม่มีปัญหาเรื่องทรัพย์สิน เพราะว่าเราไม่มีทรัพย์สินอะไร ส่วนของใช้ในบ้าน รถสามล้อเครื่องก็จะยกให้แม่ยายทั้งหมด