กรณี รัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว)  ได้ประกาศเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2563 กำหนดมาตรการการเข้าเมืองของ สปป.ลาว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด 19 โดยสั่งปิดด่านประเพณีและด่านท้องถิ่นหรือจุดผ่อนปรนทั้งหมด มีผลตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม-20 เมษายน 2563

    ยกเว้นด่านสากลหรือจุดผ่านแดนถาวร เช่น สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3(นครพนม-คำม่วน) ยังเปิดให้บริการต่อไป แต่ได้เพิ่มมาตรการคัดกรองการข้ามแดนของบุคคล และยกเลิกการออกวีซ่าที่ด่านทุกประเภท อีกทั้งระงับการใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม-20 เมษายน 2563

     สำหรับผู้มีวีซ่าเข้า-ออก สปป.ลาว อยู่ก่อนแล้ว ในการเดินทางเข้าประเทศลาวครั้งต่อไป จะต้องแสดงเอกสารการตรวจสุขภาพกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อยืนยันว่าปลอดโรคโควิด 19 ฯลฯนอกจากนี้เรื่องรถขนส่งสินค้าจากประเทศไทยข้ามไปฝั่งลาว สถานเอกอัครราชทูตฯ กำลังประสานกับทางการลาว ขอรับรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติของฝ่ายลาว และจะได้ประกาศให้ทางไทยเป็นลำดับต่อไป

     และด้วยประเทศลาวสั่งปิดพรมแดนด่านท่าเทียบเรือ(จุดผ่อนปรน) และด่านประเพณี(ท่าเรือตามหมู่บ้านแนวชายแดนแม่น้ำโขง) ยกเว้นสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ฯเพียงแห่งเดียวที่ยังคงเปิดให้ข้ามไปมาได้ตามปกติ อาจจะมีพี่น้องชาวลาวตื่นตระหนก ว่าในอนาคตอาจจะมีประกาศปิดพรมแดนทั้งหมด จึงข้ามมายังฝั่งจังหวัดนครพนม เพื่อกว้านซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคไปไว้กักตุน

     คืบหน้า วันที่ 20 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3(นครพนม-คำม่วน) พบว่าการเดินทางเข้าออกยังคงเป็นปกติ เมื่อสอบถามเจ้าหน้าศุลกากรถึงกรณีมีชาวลาวข้ามมาซื้อสินค้าไว้ไปกักตุนหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าการจับจ่ายสินค้ายังคงทุกอย่างเหมือนเดิม ขณะที่ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม(ตม.ฯ) กล่าวเพิ่มเติมว่ารถยนต์ที่ข้ามมาฝั่งไทยมีจำนวนลดลงด้วยซ้ำ และยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในการซื้อสินค้าไว้กักตุนแต่อย่างใด

     ด้านคนใช่แรงงานชาวเวียดนามที่ตกค้างอยู่ บขส.นครพนม จำนวนกว่า 200 คน  ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว ล่าสุด ทางการลาวได้ผ่อนปรนยินยอมให้ข้ามพรมแดนลาว เพื่อให้ชาวเวียดนามกลับภูมิลำเนาหมดแล้ว แต่ในวันพรุ่งนี้(21 มีนาคม) ถ้ายังมีชาวเวียดนามเดินทางเข้าประเทศลาวอีก คงไม่ได้รับการอนุญาตให้ข้ามพรมแดนอีก