เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 20 มี.ค. 63 ร.ต.อ.เลิศศักดิ์ รัตนพิทักษ์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองตราด ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงรับซื้อของเก่า ติดกับสหกรณ์ร้านค้าเนินทราย ม.2 ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราดรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานรถดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนตำบลวังกระแจะ จำนวน 3 คัน รุดไประงับเหตุ

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นโรงรับซื้อของเก่า ชื่อ ตะวันค้าของเก่า เลขที่ 140 ม.5 ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้โกดังของโรงรับซื้อของเก่าอย่างหนัก ภายในมีทั้งลังกระดาษ ขวดพลาสติก ถังแก๊ส ถังไฮโดรเจน โดยมีเสียงระเบิดดังสนั่นอยู่ตลอดเวลา และมีรถยนต์กระบะจอดอยู่ในโกดังอีกจำนวน 1 คัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังพยายามเร่งสกัดไฟแต่เนื่องจากมีวัตถุไวไฟทำให้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงเพลิงได้สงบลง พบว่า โรงรับซื้อของเก่าดังกล่าววอดทั้งหลังไม่มีอะไรเหลือ

บริเวณหน้าโรงเก็บของเก่า พบนางพีชญา เจนจัดการ อายุ 49 ปี เจ้าของโรงรับซื้อของเก่า เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังนั่งรับประทานอาหารกับมารดาและลูกๆ เพื่อนบ้านได้เดินมาบอกว่ามีคนกำลังเผาลังการดาษที่โกดังตนจึงรีบวิ่งหนีออกมาพบว่า เป็นนายสมชาย หลังพงษ์ อายุ 53 ปี เป็นผู้จุดไฟเผา นางพีชญา เล่าให้ฟังต่อว่า นายสมชาย คนก่อเหตุเป็นลูกจ้างที่โรงรับซื้อของเก่าของตน แต่มีนิสัยชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ มาทำงานบ้างไม่มาบ้าง ตนทนนิสัยไม่ไหววันนี้ได้โทรไปบอกภรรยาของนายสมชายว่า พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้ว ทำให้นายสมชายไม่พอใจ และโทรกลับมาขู่ว่าจะมาจัดการ  นางพีชญาเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ไม่คิดว่านายสมชายจะทำได้ขนาดนี้ นายสมชายเป็นพี่ชายของสามีของตนที่เสียไปแล้ว อีกทั้งตนยังให้ที่พักอาศัยกับนายสมชายและภรรยา ช่วยเหลือทุกอย่าง ไม่คิดว่าจะเนรคุณ ตายไปน่าจะดีกว่าอยู่ นางพีชญากล่าวทิ้งท้าย

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสมชาย หลักพงษ์ ไปไว้ที่ สภ.เมืองตราด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยนายสมชายเปิดเผยว่า ตนทำไปเพราะโมโหเนื่องจากกำลังจะซื้อรถจักรยยานยนต์ให้ภรรยาแต่มาโดนไล่ออกเสียก่อน จึงจุดไฟเผาโรงรับซื้อของเก่าดังกล่าว โดยตนยอมรับว่าเป็นคนทำจริงๆ