หลังการประกาศปิดด่านชายแดนช่องทางธรรมชาติและจุดผ่อนปรนการค้าในอ.บ่อไร่ ที่บ้านมะม่วง และบ้านท่าเส้น อ.เมือง จ.ตราด ของว่าที่ร้อยตรีพิเชียน ลิมป์หวังอยู่ ผู้ว่าราชการจ.ตราดที่ลงนามเมื่อวานนี้ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแก้ปัญหาเชื้อไวรัสโควิด19 หมดไปโดยเร็ว

ที่ตลาดชายแดนบ้านท่าเส้น ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด วันนี้(21 มีนาคม 2563) ชาวกัมพูชาที่บ้านทมอดา อ.เวียงเวล จ.โพธิสัต ยังคงเดินทางมาเพื่อซื้อสินค้า และขายสินค้า ตามปกติ ที่มีการเปิดให้มีการเข้าออก ในทุกวันเสาร์ อาทตย์ และวันพุธแต่มีจำนวนลดลงกว่าครึ่งที่เคยมีกว่าพันคน ทำให้ตลาดชายแดนบ้านท่าเส้นเงียบเหงามีประชาชนบางตาและส่วนใหญ่เป็นชาวต.แหลมกลัด

นางบุศรินทร์ เครือวัลย์ แม่ค้าขายผลไม้ตลาดท่าเส้นกล่าวว่า การปิดชายแดนส่งผลกระทบต่อรายได้ของ่อค้า แม่ค้าในตลาดท่าเส้น เพราะที่ผ่านมาก็ลดลงจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 อยู่แล้ว วันนี้กลับต้องหยุดเพื่อไม่ให้ชาวกัมพูชาเข้ามา เพราะหากจะให้ชาวบ้านแหลมกลัดมาซื้อสินค้ากันเองรายได้จะยิ่งลดลง อีกทั้งช่วงนี้ เป็นช่วงหน้าผลไม้ จะนำผลไม้ไปจำหน่ายให้ให้ใคร จะส่งผลกระทบต่อครอบครัวซึ่งจะต้องเลี้ยงลูก 3 คน เพราะรายได้หลักของครอบครัวมาจากการค้าขายสินค้าให้ชาวกัมพูชา ซึ่งหากปิดชั่วคราวก็พอยอมรับได้

ส่วนนายนิรัตน์ ภมร เจ้าของตลาดนัดชายแดนท่าเส้น กล่าวทั้งน้ำตาว่า พ่อค้า แม้ค้าที่ตลาดท่าเส้นมีเกือบ 100 แผง เป็นของคนท้องถิ่น 30-40 ราย ซึ่งในแต่ละวันที่มีตลาดนัด จะมีรายได้เกิน 3,000 -5,000 บาท/วัน แต่ครั้งนี้รายได้หายไปเหลือวันละ 1,000 บาทซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต เพราะมีต้นทุนจากการซื้อสินค้า ซึ่งต้องรับภาระค่าใช้จ่ายมากมาย การปิดชายแดนไม่ให้ชาวกัมพูชามาอยากจะขอให้ปิดแค่ชั่วคราวเพราะหากปิดนายจะทำให้พ่อค้าแม่ได้รับผลกระทบมาก

สำหรับในวันพรุ้งนี้ คือ วันที่ 22 มีนาคม 2563 ซึ่งปกติด่านชายแดนบ้านท่าเส้นจะเปิดตามปกติ แต่ผู้ว่าราชการจ.ตราดได้สั่งปิดไปชั่วคราวตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ทางฝ่ายทหารนาวิกโยธินขอผ่อนปรนให้พ่อค้าแม่ค้าขายได้อีก 1 วัน เนื่องจากมีการซื้อสินค้ามาแล้วจึงเกรงว่าจะกระทบกับสินค้าดังกล่าว