ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม 2563 นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา เตือนประชาชนที่เดินทางจากกรุงเทพและปริมณฑลกลับภูมิลำเนาควร รับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นในการที่จะป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และผู้เดินทางกลับ ขอให้แจ้งให้ผู้นำชุมชนตลอดจนถึงคณะกรรมการโรคติดต่อของพื้นที่ ให้ได้รับทราบข้อมูล เพื่อสะดวกในการดูแลสุขภาพ ขณะที่มาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังกล่าวนั้น สถานที่ราชการของจังหวัดทุกแห่งได้ให้ผู้ที่เดินทางเข้าทำงานและมาติดต่อราชการ ใช้ประตูเพียงประตูเดียวและมีจุดคัดกรองผู้เข้าออกอย่างเข้มงวด

 

 

นายแพทย์ไกรสุข เพชระบูรณิน สาธารณสุขจังหวัดพะเยา ต้องออกมาชี้แจงและแจ้งให้กับประชาชนที่เดินทางจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กลับภูมิลำเนา ให้มีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่นโดยการ ป้องกันตนเองทั้งในเรื่องของการเดินทางกลับและหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังกล่าว โดยการใช้อุปกรณ์ป้องกันและไม่ อยู่ในที่ใกล้ชิดกันจนเกินไป รวมทั้งในเรื่องของการรับประทานอาหารให้ยึดแนวปฏิบัติ กินร้อนช้อนกลางและหมั่นล้างมือทำความสะอาด และเมื่อถึงภูมิลำเนาแล้วให้ช่วยแจ้งกับชุมชนทั้งผู้นำชุมชนผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตลอดจนถึง อสม.ในพื้นที่ เพื่อทางสาธารณะสุขจะได้มีข้อมูลและช่วยในการดูแลสุขภาพให้กับพี่น้องประชาชน เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว นอกจากนั้นยังแนะนำ ให้ตนเองได้ดูแลเอาใจใส่เฝ้าสังเกตอาการของตนเอง พยายามหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านในช่วงนี้ ซึ่งการแจ้งให้ผู้นำชุมชนหรือทางสาธารณะสุขนั้น เพื่อจะได้รับทราบข้อมูลและเป็นข้อดีในการที่ทางสาธารณะสุข จะเข้าไปดูแลสุขภาพและช่วยในการที่จะให้ข้อมูลความรู้ในการที่จะป้องกันการแพร่ระบาดดังกล่าว ตลอดจนถึงจะสามารถดูแลสุขภาพของผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาได้อย่างปลอดภัย

ขณะที่มาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังกล่าว สถานที่ราชการโดยเฉพาะในพื้นที่ของจังหวัดพะเยา แทบทุกแห่ง เช่น ศาลากลางจังหวัดพะเยา ได้มีการเปิดให้ประชาชนที่เข้าทำงานและเดินทางติดต่อราชการเข้าออกเพียงประตูเดียวและมีจุดคัดกรองอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดดังกล่าว โดยได้เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนั้นทางโรงพยาบาลพะเยา และโรงพยาบาลเชียงคำ และโรงพยาบาลระดับอำเภอ ยังได้มีประกาศให้งดเยี่ยมไข้ผู้ป่วยในช่วงนี้ โดยให้ญาติสามารถที่จะอยู่เฝ้าคนไข้ได้เพียง 1 คน