เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.วันที่ 23 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร้อยตำรวจเอก อามร เพชรด้วง ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองวาฬ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนท้ายรถบรรทุกพ่วงมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดคาภายในรถ เหตุเกิดบริเวณบนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หลักกิโลเมตรที่ 327 + 100 หน้าค่ายพระมงกุฎเกล้าฯ กก.ตชด.14 หมู่ 9 บ้านห้วยทราย ตำบลห้วยทราย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงประสานหน่วยกู้ชีพ 1669 รพ.ประจวบ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบ หน่วยกู้ชีพ อบต.ห้วยทราย ตำรวจทางหลวง แขวงทางหลวงประจวบ ร่วมตรวจสอบเข้าให้ความช่วยเหลือ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนสังกัด กก.ตชด.14 ค่ายพระมงกุฎเกล้าฯ กำลังเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้อุปกรณ์เครื่องตัด-ถ่าง งัดตัดซากรถนำร่างผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตออกมาไว้นอกรถ แล้วนำคนเจ็บอาการสาหัส 2 ราย นำส่งโรงพยาบาลประจวบฯ

จากการตรวจสอบพบเป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน กล 3228 นครศรีธรรมราช เฉี่ยวชนบริเวณ ด้านท้ายรถด้านขวาของรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ที่จอดอยู่ริมทางหน้าค่าย ตชด.14 เป็นรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อ Isuzu สีขาว ทะเบียนส่วนหัว 70-5459 ลำปาง ตัวพ่วง 70-5200 ลำปาง ทำให้สภาพรถเก๋งพังเสียหายยับเยินกันชนหน้า เครื่องยนต์ และกระจกหน้ารถพังแตกเสียหาย เป็นเหตุทำให้ผู้โดยสารทั้งหมด 4 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เป็นชาย 1 ราย อายุประมาณ 40 ปี และหญิงอายุประมาณ 40 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสนำตัวส่งโรงพยาบาลประจวบฯ และมีผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย เป็นหญิงอายุประมาณ 40 ปี 1 ราย เสียชีวิตอยู่บริเวณกระจกคอนโซลหน้ารถ และเด็กหญิงอายุประมาณ 10 ปี อีก 1 ราย เสียชีวิตคาที่อยู่บริเวณที่พักเท้าใต้คอนโซลรถฝั่งคนนั่งซ้าย เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลประจวบ ห่างออกมาอีกประมาณ 100 เมตร พบรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อ Nissan นาวาร่า สีขาว มีลูกกรงสำหรับบรรทุก หมายเลขทะเบียน ฒส 7686 กทม.หน้ารถด้านซ้ายและล้อซ้ายพังเสียหายอีก 1 คัน

 

ส่วนสาเหตุเบื้องต้นจากการสอบถาม นายชาญ กุดเป่ง อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะและเห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้ขับรถมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อไปทำงานที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้เห็นรถยนต์เก๋งคันที่ประสบเหตุเกิดยางระเบิด แล้วเสียหลักไปชนท้ายรถพ่วงที่จอดอยู่ข้างทาง จากนั้นรถเก๋งได้หมุนมาขวางถนนทำให้รถของตนซึ่งวิ่งตามหลังมาเบรคไม่ทัน และได้หักหลบจนสุดแล้วแต่ไม่พ้นจึงได้ชนเข้าอย่างจังและทำให้รถเก๋งไถลไปชนกับรถพ่วงซ้ำอีก 1 ครั้ง ดังกล่าว อย่างไรก็ดีจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งต่อไป

ด้านของคนที่รู้จักกับรถเก๋งคันที่ประสบเหตุเล่าว่า ผู้ประสบเหตุเป็นเพื่อนร่วมอบรมโครงการชำระหนี้ ธกส. ที่จัดขึ้นในจังหวัดเพชรบุรี หลังเสร็จสิ้นการอบรมจึงได้เดินทางกลับภูมิลำเนา ตนเองกลับบ้านที่จังหวัดชุมพร ส่วนรถเก๋งคันที่ประสบเหตุน่าจะกลับบ้านที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ได้มาประสบเหตุเสียก่อน