เผยความเชื่อชาวบ้าน เดือนห้าอาถรรพ์ โรคห่าระบาด ต้องย้ายบ้านหนี
24 มี.ค. 2563, 18:14
วันที่ 24 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 ตรงกับวันอังคาร ชาวบ้าน หนองคู ต.คาละแมะ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน ได้ยึดถือประเพณีโบราณมาหลายชั่วอายุ คน โดยเชื่อว่า วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ตรงกับวันอังคาร เป็นที่จะเกิดอาเพศขึ้นตามตำนานเล่าขาน คือเดือน 5 อาถรรพ์ บ้างก็ว่าจะมีโรคห่าระบาด ความเชื่อในอดีต จึงต้องอพยพชาวบ้านออกจากบ้าน หนีโรคร้ายออกจากหมู่บ้าน หรือว่าย้ายบ้านหนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งใหม่ โดยได้สมมติพากันขนย้านสิ่งของ ทรัพย์สินบางส่วน ออกจากหมู่บ้านทั้งหาบ ทั้งแบกทั้งหาม ใส่รถเข่นบ้าง พากันออกไปตั้งแต่เช้า เพื่อสร้างบ้านใหม่ เป็นบ้านสมมุติ ในความเชื่อ เมื่อสร้างบ้านเสร็จก็มีพิธี ขึ้นบ้านใหม่ เลี้ยงอาหารพระสงฆ์ และบวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่หมู่บ้านใหม่ และเรียกขวัญ ให้กำลังใจแก่ชาวบ้าน และทานอาหารร่วมกัน เสร็จแล้ว ก็จะกลับเข้าหมู่บ้านเดิมอีกทีคือตอนเย็นค่ำมืด และก็จะเรียกขวัญตัวเองกลับด้วย แล้วสิ่งชั่วร้ายโรคภัยต่างๆก็จะหายไป จะพานพบแต่สิ่งดีๆ หายทุกข์ หายโศก หายโรค หายภัย เสนียดจัญไรไม่มี
นางนันทา กลิ่นขจร บ้านหนองคู ตำบลคาละแมะ และ นางชะนางรัก แก้วบุตรดี บ้านหนองกุง ตำบลคาละแมะ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ให้ข้อมูลและรายละเอียดว่า พิธีนี้เรียกว่าพิธีบ้านแตก ไล่อาถรรพ์ เดือน 5 ที่คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน บอกว่า โบราณบอกต่อๆกันว่า จะเกิดโรคห่าระบาดขึ้น ในหมู่บ้าน คือในช่วงเช้าของวันนี้ซึ่งตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 วันอังคาร ตามตำนานเล่าขานนั้นว่าจะเกิดอาเพศขึ้น การปฏิบัติตามคำเชื่อของโบราณ
ทำให้ชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้าน จึงได้ปฏิบัติตาม โดยมีผู้นำหมู่บ้านคือนายทศวรรษ ดัชถุยาวัตร รวมทั้งชาวบ้านทั้งหมด จัดทำพิธีขึ้นในตอนเช้าจึงได้จัดเตรียมขนสิ่งของต่างๆไม่ว่าจะเป็นข้าวปลาอาหาร เสื่อ สาด หมอน ทั้งหอบหิ้ว ทั้งหาบเดิน ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านเดินไปตามถนนหนทางลงทุ่งนาเพื่อที่จะไปตั้งหลักปักฐานที่บ้านแห่งใหม่ เมื่อไปถึงสถานที่แห่งใหม่ที่จะ ลงหลักปักฐานอยู่ที่หมู่บ้านแห่งใหม่ ซึ่งหัวหน้าหมู่บ้านแห่งใหม่ เมื่อเห็นชาวบ้าน ย้ายกันมาเป็นจำนวนมาก ก็ออกมาถามไถ่ ความเป็นมาถึงวัตถุประสงค์ของการเดินทางเคลื่อนย้าย มายังหมู่บ้านแห่งใหม่ ชาวบ้านที่มาก็ได้บอกว่าที่หมู่บ้านเก่านั้นเกิดอาเพส เกิดความแห้งแล้ง เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ก็เลยอยากจะหนีร้อนมาพึ่งเย็น พอเจ้าของหมู่บ้านใหม่ ได้รับรู้ความทุกข์ร้อน จึงอนุญาตให้เข้าไป ตั้งบ้านอยู่ได้ เมื่อได้สมความมุ่งมาดปรารถนาแล้วชาวบ้านที่มาก็ได้โห่ร้องไชโยโห่หิ้วแสดงความดีใจ
หลังจากนั้นเมื่อตั้งบ้านเรือนได้ที่แห่งใหม่แล้วก็ชาวบ้านก็จะตั้งวงเป็นกลุ่มๆ ร่วมรับประทานอาหารกันกินกันอย่างเอร็ดอร่อยอิ่มหนำสำราญ เมื่อกินเสร็จแล้วก็จะมีพระสงฆ์องค์พระเจ้าสวดขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปแล้วให้ศีลให้พรหลังจากพิธีเสร็จก็เดินทางกลับเข้าบ้านเดิม ( ตำนานเล่าขานนี้มีมานานนับร้อยปี กว่าจะมีการทำตามแบบประเพณีโบราณ กว่าจะเกิดขึ้นนั้น ก็จะต้องให้ตรงกันกับวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 วันอังคารเท่านั้น ถึงจะทำได้ที่ชาวบ้านเรียกว่า บ้านแตก หนีโรคห่า ระบาด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา การ แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ใน จ.สุรินทร์และในพื้นที่จังหวัดต่างๆของประเทศ ชาวบ้านที่ประกอบพิธีบ้านแตก ในครั้งนี้ เชื่อว่า จะสามารถสร้างขวัญกำลังใจ ให้สามารถต่อสู้กับโรคนี้ไปได้ ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวบ้านที่สืบทอดต่อกันมาหลายร้อยปี