"แม่วัยใส" น้อยใจพ่อแม่ หอบลูกชายหนีออกจากบ้าน ก่อนลงมือโหดฆ่าด้วยมือตัวเอง
25 มี.ค. 2563, 11:26
เมื่อเวลา 06.00น.วันที่ 25 มี.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ชาญชัย ภูล้นแก้ว รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้ง จาก น.ส.ชรินทร์ทิพย์ เนื่องสิทธิ์ อายุ 21 ปี ว่าพบเด็กเสียชีวิตอยู่ที่บ้านเลขที่ 125 หมู่ที่ 5 บ้านเหล่าหนองยาง ต.ซาง อ.เซกา จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ธงรงชัย ไล้ทองดี ผกก.ทราบ รุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุรัตน์. พินิจมนตรี รอง ผกก. ป. พ.ต.ท.อรุณ รักสัตย์ รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.ณัฐพล.โอฆะพนม สวป.ร.ต.อ.กูลรัตน์ บุญยืน รอง สวป พญ.โชติกา สิงหกุล แพทย์ รพ.เซกาและสมาคมกู้ภัยเทพารักษ์เซกา
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่ามีประชาชนที่มามุงดูต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา และที่บริเวณหลังห้องน้ำของบ้านปูนชั้นเดียว พบศพเด็กทารกเพศชาย คือ เด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุประมาณ 1 ขวบ สภาพศพถูกรถเข็นเด็กทับร่างเอาไว้ โผล่ออกมาให้เห็นเป็นขาด้านซ้าย ศพเริ่มส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เมื่อนำรถเข็นที่ทับร่างออก พบกับภาพที่น่าเวทนา เมื่อศพเด็กชายผู้เคราะห์ร้ายไม่ใส่เสื้อผ้า ร่างเปลือยเปล่าโดยมีมดแดงกัดและไต่ไปทั่วร่าง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 วัน
น.ส.ชรินทร์ทิพย์ เนื่องสิทธิ์ เจ้าของบ้าน เล่าให้ตำรวจฟังว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 22 มี.ค.63 ที่ผ่านมา เด็ดหญิงบี อายุ 14 ปี บ้านเลขที่ 79 หมู่ที่ 7 บ้านสันกำแพง ต.ซาง อ.เซกา ซึ่งเป็นคนรู้จักกันได้อุ้ม เด็กชายเอ มาขอนอนพักอาศัยชั่วคราวด้วย โดยอ้างว่าทะเลาะกับแม่มาจึงหนีออกจากบ้าน จึงไม่มีที่จะพาลูกชายหลับนอน ตนเห็นแล้วสงสารจึงบอกให้เข้าไปนอนพักบ้านหลังเกิดเหตุ เพราะบ้านหลังดังกล่าวก็ว่างไม่มีใครอยู่ แต่พอตกตอนดึกมีรถจักรยานยนต์วิ่งเข้ามารับเด็กหญิงบี ตนจึงร้องถามว่าจะไปไหนเอาลูกชายไปด้วยไหม ได้คำตอบว่าเอาไปด้วย จนมาถึงวันนี้ได้กลิ่นเหม็นเน่ามาจากหลังบ้านเดินไปดู จึงพบศพเด็กชายดังกล่าว ขณะเจ้าหน้าที่กำลังชันสูตรศพอยู่นั้น เป็นจังหวะที่เด็กหญิงบี แม่ของเด็กชายผู้เสียชีวิตเดินเข้ามาดูเหตุการณ์ จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน
จากการสอบสวนเบื้องต้น เด็กหญิงบี แม่วัยเด็กให้การว่า เมื่อหลายวันก่อนตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์ของพ่อเลี้ยงออกไปหาเพื่อนและนอนพัก 3 คืนทิ้งลูกไว้กับแม่ดูแลเลี้ยงดูให้ พอกลับมาบ้านพ่อเลี้ยงได้ทำร้ายตนโดยตบที่ใบหน้าแล้วก็ปาก 2-3 ที เสียใจและน้อยใจจึงหอบลูกหนีออกจากบ้านมาขอพักอาศัยที่บ้านเกิดเหตุ ก่อนจะตัดสินใจฆ่าลูกในไส้ด้วยน้ำมือของตนเองก็นั่งร้องไห้คิดอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมงว่าจะเอาอย่างไรดีกับชีวิตตนและลูก
จากนั้นจึงตัดสินใจนำเชือกไนลอนผูกเป็นบ่วงมัดติดกับแปบ้าน ก่อนจะอุ้มลูกน้อยขึ้นไปใช้บ่วงรัดคอลูกชาย แล้วปล่อยมือเห็นลูกชายดิ้นอยู่สักพักก่อนจะแน่นิ่งขาดใจตายไปต่อหน้าต่อตา แล้วเดินเข้าไปในบ้านครุ่นคิดอยู่ประมาณ 20 นาทีจึงกลับไปดูลูกอีกครั้ง เห็นว่าเสียชีวิตแน่แล้วจึงนำร่างลูกชายที่เป็นศพแล้วออกจากบ่วง แก้บ่วงออกจากบ้านไปทิ้ง และนำผ้าห่มมาห่มศพลูกก่อนจะนำไปไว้หลังบ้านข้างน้องน้ำและใช้รถเข็นเด็กทับร่างไว้อีกที จากนั้นโทรศัพท์ให้เพื่อนมารับ ไปเปิดห้องพักนอนที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร
วันต่อมาย้อนกลับมาดูศพลูกชายอีกที พร้อมกับมาเก็บเอาเสื้อผ้าไปเที่ยวต่อกับเพื่อน และวันนี้ก่อนถูกจับกุมได้ย้อนกลับมาบ้านเกิดเหตุดูศพลูกชายอีกที จึงถูกควบคุมตัวไว้ได้ดังกล่าว ยอมรับว่าที่ก่อเหตุฆ่าลูกชายเพราะเกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจที่โดนแม่ด่าและพ่อเลี้ยงทำร้าย ด้วยความคิดไม่ตกประกอบกับโมโหหาทางออกไม่ได้ จึงก่อเหตุดังกล่าว
ด้านนางเพ็ญประภา ประการะพัง อายุ 40 ปี แม่ของเด็กหญิงบี แม่วัยเด็กผู้ก่อเหตุสลดเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีเรื่องทะเลาะกันจริง และพ่อเลี้ยงได้ตบหน้าไป 2 ที ทำให้เด็กหญิงบีไม่พอใจ พาลูกหอบหนีมาอยู่บ้านหลังนี้กับเพื่อน ที่ผ่านมาก็เกิดเรื่องแบบนี้ประจำ เวลาหนีออกจากบ้านก็จะเอาลูกไปด้วย บางทีก็เอาไปไว้กับเพื่อนและพ่อแท้ๆ ของเขาที่ทำงานก่อสร้างอยู่ในบึงกาฬ หนีไป 2-3 วันก็กลับมาบ้าน แม่ก็ให้อภัยทุกครั้ง และเมื่อรู้ว่าลูกไปพักอยู่กับใครที่ไหนก็จะตามไปดูด้วยความเป็นห่วง บางทีก็หนีไปเฉพาะตัวคนเดียว ส่วนลูกชายก็ทิ้งให้แม่เลี้ยงดู คราวนี้ไม่คิดว่าลูกสาวจะฆ่าลูกชายตัวน้อยๆ ของตัวเองได้ลงคอถึงเพียงนี้