ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า วันที่ 25 มีนาคม 2563 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีส่งมอบแอลกอฮอล์ 40,000 ลิตร เครื่องวัดอุณหภูมิระบบอินฟราเรด 40 เครื่อง และกระบอกฉีดน้ำสเปย์ 300 ขวด มอบให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่นำไปเป็นสารตั้งต้นผลิตเจลล้างมือและทำน้ำยาฆ่าเชื้อแจกหน่วยงานและประชาชน เพื่อใช้ป้องกันสกัดและตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ให้กับประชาชนในพื้นที่ ตามมาตรการสุราษฎร์ธานีต้องปลอดภัย

ขณะที่สถานการณ์ระบาดของโรคระบาดจากเชื้อไวรัสโควิส-19 ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 144 ราย ไม่พบเชื้อ 126 ราย รอผลตรวจ 9 ราย มีผู้ป่วยได้รับเชื้อ 9 รายเท่าเดิมไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ซึ่งแพทย์อนุญาตกลับบ้านได้เพิ่มอีก 3 รายรวมแล้ว 6 ราย อยู่ในพื้นที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี 3 รายเป็นครอบครัวของชายวัย 49 ปี ผู้ป่วยรายแรกจากจังหวัดชายแดนใต้, อ.ท่าชนะกับ อ.เวียงสระ แห่งละ 1 ราย ที่ไปดูมวยที่กรุงเทพฯ และ อ.กาญจนดิษฐ์ 1 ราย ติดจากสถานบันเทิงที่กรุงเทพฯ เหลือผู้ป่วยรักษาอยู่ 3 ราย อยู่ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี 2 ราย และโรงพยาบาลเกาะพะงัน 1 ราย

 

 

วันเดียวกัน ภายหลังมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่สฎ0018.2/ว2571 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ถึงหัวหน้าส่วนราชการภูมิภาคประจำจังหวัด และนายอำเภอทุกอำเภอ ให้อยู่ปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี กรณีสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID - 19)

ทั้งนี้ เนื้อหาในหนังสือส่วนสำคัญระบุว่า ตามที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลไต้กำหนดมาตรการเร่งด่วนด้านการป้องกันโรค/สุขภาพสำหรับการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID - 19) ที่ให้ส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 นายกรัฐมนตรีแถลงประกาศมติคณะรัฐมนตรีประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เริ่มบังคับใช้ในวันที่ 26 มีนาคม 2563