วันนี้ (26 มี.ค. 2563) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ทำการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกาญจนบุรี จัดเจ้าหน้าที่ตั้งจุดคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจัดให้เจ้าหน้าที่มาใช้อุปกรณ์ตรวจวัดค่าอุณหภูมิของร่างกายผู้เดินทางเข้าไปชำระค่ากระแสไฟฟ้า ก่อนจะเดินทางไปชำระค่าไฟฟ้า พร้อมมีเจลให้ผู้ไปชำระค่าไฟฟ้าได้ล้างมือเพื่อป้องกันเชื้อโควิด-19 และทางสำงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกาญจนบุรี ได้ปิดการชำระเงินค่าไฟฟ้าภายในอาคารตามที่เคย แต่ได้จัดตั้งจุดชำระค่ากระแสไฟฟ้าไว้นอกอาคารแทน ทั้งการชำระด้วยระบบผ่านจากช่องทางด่วน โดยผู้ที่ไปชำระสามารถขับรถยนต์ผ่านเข้าไปโดยไม่ต้องลงจากรถ รวดเร็วและสะดวกกว่า ส่วนผู้ไม่ใช้ช่องทางนี้ก็สามารถไปชำระยังจุดนอกอาคารหลายจุดที่ตั้งอยู่ภายนอกอาคารของสำนักงานเช่นกัน เพื่อสร้างความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการ

นายพงศ์ภูมิพันธ์ เชื้อฮ้อ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า จากที่ทางรัฐบาลได้มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกมาทางการไฟฟ้าจังหวัดกาญจนบุรี ก็ได้ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล มีจุดคัดกรองก่อนการเข้าไปยังจุดชำระค่ากระแสไฟฟ้า โดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิทุกคน แล้วพบว่ามี 1 ราย สูงเกินกว่า 37 องศาเซลเซียส จึงไม่ยอมให้ผ่านเข้าไปเด็ดขาด แนะนำให้ไปพบแพทย์ก่อน จากเดิมชำระภายในอาคาร ทางสำนักงานได้จัดการชำระเป็นนอกอาคารแทน เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 และฝากไปยังประชาชนช่วงนี้เกิดปัญหาเชื้อโควิด-19 ระบาด ทางการไฟฟ้าเคยจัดรถออกไปให้บริการช่วงนี้ต้องขอหยุดชั่วคราวก่อน

ส่วนกรณีขอคืนเงินค่าประกันไฟฟ้าช่วงนี้เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 จึงของดไว้ก่อน และขอให้ไปติดต่อขอเงินคืน ในช่องทางออนไลน์ ด้วยการลงทะเบียนตามที่ทางการไฟฟ้าได้ไปติดป้ายเพื่อประชาสัมพันธ์ ตามจุดต่างๆ ทั่วไปได้ รวมถึงแจ้งทางกำนันผู้ใหญ่บ้านทุกแห่งได้ ไม่ต้องเดินทางมาขอรับที่สำนักงานการไฟฟ้า เงินประกันนั้นไม่ใช่เงินประกันมิเตอร์ แต่เป็นเงินประกันค่าการใช้ไฟฟ้า ซึ่งกรณีที่ผู้ใช้ไฟเกินแล้วไม่ไปชำระ ทางการไฟฟ้าก็จะเอาเงินประกันนี้ชำระแทน

ดังนั้นมิเตอร์ยังคงเป็นของการไฟฟ้าเหมือนเดิม แต่การจะรับเงินคืนชื่อจะต้องขอผู้ขอเท่านั้น หากเสียชีวิตไปแล้วก็จะเป็นของผู้สืบทอดมรดกสามารถรับคืนได้ ส่วนกรณีที่เคยถูกตัดมิเตอร์ไปแล้วเงินนั้นก็ยังอยู่เหมือนเดิมสามารถมารับคืนไปได้ แต่จะต้องชำระค่าไฟฟ้าที่ยังค้างอยู่ให้เสร็จเสียก่อน