เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ต้องให้ขู่ถึงกลัว! กอ.รมน.ประจวบฯใช้ภาพงูเหลือมขู่ลิงแสมไม่ให้รบกวน


28 มี.ค. 2563, 13:20



ต้องให้ขู่ถึงกลัว! กอ.รมน.ประจวบฯใช้ภาพงูเหลือมขู่ลิงแสมไม่ให้รบกวน




วันที่ 28 มีนาคม 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีปัญหาลิงแสมเขาช่องกระจกได้ลงจากภูเขาเข้ามารบกวนรื้อค้นสิ่งของ และอาคารศาลากลางจังหวัดหลังเก่าทำให้ห้องทำงานของส่วนราชการ ฝ้าเพดาน หลังคา พังเสียหายจำนวนมาก นอกจากนี้อาคารศาลากลางจังหวัดหลังใหม่ยังถูกฝูงลิงดึงโหน สายไฟ สายเคเบิ้ล จนขาดบ่อยครั้ง และทำให้หลอดไฟที่ประดับอยู่บริเวณด้านหน้าศาลากลางแตกจนเกือบหมด อีกทั้งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าลิงซึ่งมีรูปร่างส่วนคล้ายกับมนุษย์จะเป็นพาหะนำโรคเชื้อโควิด-19 ได้หรือไม่นั้น

 

 

 

 

 



เพื่อเป็นการป้องกันล่าสุดทางด้าน หน่วยงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์(กอ.รมน.ปข.) ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดประจวบ ได้มีการทดลองใช้ภาพสีของูเหลือม ลิงกัง งูขนาดใหญ่ต่างๆ ที่มีลักษณะท่าที่ดุร้าย ค้นหามาจากอินเทอร์เน็ตแล้วปริ้นใส่กระดาษA4 ไปแปะไว้ที่บริเวณบานกระจกหน้าต่างรอบห้อง เพื่อให้ลิงไม่กล้าเข้ามาใกล้ ซึ่งก็ได้ผลในระดับหนึ่ง

 

 


พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รอง ผอ.รมน.ประจวบ เปิดเผยว่า จากปัญหาที่ผ่านมาลิงแสมเขาช่องกระจกชอบมารบกวนดึงสายไฟสายเคเบิลของสำนักงานจนขาดเสียหายบ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังชอบพากันมานั่งอยู่บริเวณขอบหน้าต่างซึ่งเป็นกระจกใสแล้วชะโงกมอง ภายในห้องทำงานเวลารับประทานอาหาร และบางครั้งก็พากันมาทำกิจกรรมผสมพันธุ์กัน จึงได้มีการติดฟิล์มสีขุ่นที่บริเวณครึ่งกระจกด้านล่าง แต่ก็ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควรต่อมาเห็นว่าทุกครั้งที่ทางจังหวัดมีการจัดงานกาชาดหรืองานเกษตร ก็มักจะเช่าลิงกังมาเฝ้าเพื่อไม่ให้ลิงแสมลงจากเขาช่องกระจกมารบกวนภายในการจัดงานเนื่องจากแพ้กลิ่นแพ้ชั้นเชิงกัน อีกทั้งจากการเคยดูสารคดีพบว่างูเหลือมก็เป็นวงจรวัฏจักรที่กินลิงเป็นอาหารเช่นกัน จึงได้แนวคิดนำภาพลิงกังและงูเหลือมมาแปะติดกระจกหน้าต่างเพื่อข่มขู่ไม่ให้ลิงเข้ามาใกล้ แต่ปรากฏว่าลิงกังเป็นแค่ภาพถ่ายไม่มีกลิ่นจึงดูเหมือนไม่ค่อยกลัว แต่จากการที่สังเกตุพฤติกรรมลิงให้ความสนใจ และมีท่าทีหวาดกลัวงูเหลือมมากที่สุด โดยมีการชวนพรรคพวกหลายสิบตัวมายืนดูห่างๆ และมี 1 ตัว ทำท่าทีกรรโชกข่มขู่พิสูจน์กับงูเหลือม จากนั้น ก็พากันหายไปหมดเกลี้ยงไม่เหลือสักตัว แต่ก็ไม่รู้ว่าวิธีการนี้จะใช้ได้อีกนานสักเท่าไหร่ สำหรับหน่วยงานไหนที่สนใจลองนำไปทำดูก็ได้อาจจะได้ผลดี////

 

 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.