เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน ด้านสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายแพทย์วิทิต สฤษฏีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในจังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 เพิ่มอีก 3 ราย 

นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า  จังหวัดบุรีรัมย์ ถือว่าเป็นจังหวัดแรก ที่ได้ทำการปิดจังหวัด และมีกระบวนการการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงอย่างเข้มข้นในช่วงที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในจังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่แล้วถูกกระบวนการคัดกรองตรวจสอบพบ ซึ่งจากการเข้มข้นดังกล่าว ทำให้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 3 รายจากเดิม 9 รายเป็น12 ราย 

ด้านนายแพทย์วิทิต สฏษฏีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้จังหวัดบุรีรัมย์ตรวจพบผู้ติดเชื้อจำนวน 9 ราย รายที่ตรวจพบเป็นรายแรก หรือรายที่ 10 ของจังหวัด ยืนยันผลเมื่อวันที่ 30 มี.ค.เป็นหญิงอายุ 56 ปี เป็นชาวอ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งติดมาจากรายที่ 9 คือลูกสาวตัวเอง ที่รับเชื้อมาจากสถานที่ทำงานในผับแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

รายที่ 2 หรือรายที่ 11 ของจังหวัดเป็นหญิงอายุ 25 ปี ชาว อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ อาชีพนวดแผนไทยที่ จ.ภูเก็ต หลังจากสถานที่ทำงานถูกปิด เมื่อวันที่ 22 มี.ค.และได้นั่งรถทัวร์สาย ภูเก็ต-อุบลฯ มาถึงบุรีรัมย์ วันที่ 23 มี.ค.เวลา 16.45 น.แล้วเหมาแท็กซี่ไปบ้านที่ อ.บ้านกรวด วันที่ 28 มี.ค.เริ่มมีอาการไข้ เจ้าหน้าที่นำตัวไปตรวจ ผลพบเชื้อโควิด 19 

และรายที่ 3 หรือรายที่ 12 ของจังหวัด เป็นชายชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ อาชีพเป็นเชฟ ที่ประเทศอังกฤษ เดินทางมาจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.แล้วเหมารถแท็กซี่กลับบ้านที่ อ.เฉลิมพระเกียรติจ.บุรีรัมย์ ชุดตรวจคัดกรองประจำพื้นที่(อสม.)ได้เข้าไปกักตัว วันที่ 30 มี.ค.ถึงมีอาการ ก่อนจะนำไปตรวจพบติดเชื้ออีกรายรวมตรวจพบผู้ติดเชื้อในวันที่ 30 มี.ค.จำนวน 3 ราย รวมของเดิม 9 ราย เป็น 12 รายของผู้ติดเชื้อโควิด19 ที่จังหวัดบุรีรัมย์

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ยังกล่าวด้วยว่า การคัดกรองและการควบคุมโรคโควิด 19 ของจังหวัดบุรีรัมย์ ยังถือว่าเป็นไปด้วยดี ทุกหน่วยงานและประชาชน มีความตื่นตัว แต่ยังมีคนบางกลุ่มเท่านั้น ที่ยังฝ่าฝืนคำเตือน ของเจ้าหน้าที่ ไม่ยอมกักตัว 14 วัน กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่น่าห่วง เพราะเพียงจุดเล็กๆ ที่อาจจะทำให้เชื้อโควิด 19 ลามบานปลายก็ได้ 

จึงอยากจะความร่วมมือประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มที่ ถูกเจ้าหน้าที่ระบุให้กักตัว 14 วัน เพราะหากไม่ปฏิบัติตามมาตรการเชื้ออาจจะแพร่ไปยังผู้ที่เราไปสัมผัส โดยเฉพาะคนในครอบครัวเดียวกัน อาจจะได้รับผลของความไม่ระวังตัวของท่านเอง  นายแพทย์สาธารณสุข   กล่าว