"สกลนคร" ส่อเค้าแล้งหนัก ชาวนาสูบน้ำเพื่อปักดำให้ทันตามฤดูกาล
1 ก.ค. 2562, 12:04
วันที่ 1 ก.ค 2562 ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า จากสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงในหลายๆพื้นที่ของจังหวัดสกลนคร ส่งผลให้ภาคการเกษตรกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากต้นข้าวที่ปลูกไว้เริ่มแห้งเหี่ยว บางรายไถดินไว้เฉยๆ บางรายต้นกล้าที่เตรียมไว้ถึงกำหนดปักดำ จำเป็นต้องใช้วิธี สูบน้ำจากบาดาลเข้าที่นาเพื่อทำการปักดำ เนื่องจากถึงฤดูกาลปักดำแล้ว ซึ่งหลักจากปักดำแล้วเสร็จ หากยังไม่มีฝนตกลงมา โอกาสที่ต้นกล้าที่ปักดำนี้จะเหี่ยวแห้งตายก็มีเช่นกัน จึงต้องเสี่ยงว่าจะมีฝนตกลงมาหรือไม่ หากไม่มี ก็ต้องอาศัยสูบน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าว ไม่ให้แห้งเหี่ยวตายเพราะไม่มีคลองส่งน้ำมาช่วย
นาย บัวศรี งอยภูธร อายุ 57 ปี ชาวนาเจ้าของนาบ้านหนองบัว ต.บึงทวาย อ.เต่างอย กล่าวว่า ปีนี้ถือว่าแล้งกว่าทุกปี ตนเองได้ตกกล้าไว้แล้วเพื่อรอฝนตกลงมาเพื่อจะได้ทำการปักดำให้ทันฤดูกาล วันนี้ต้นกล้าโตและถึงเวลาที่จะต้องปักดำแล้ว หากไม่รีบถอนไปปักดำ ต้นกล้าจะแคระแกรนไม่สามารถนำไปปักดำได้ จึงตัดสินใจใช้วิธีสูบน้ำบาดาล หรือน้ำใต้ดินขึ้นมาเพื่อทำการปักดำ ดีกว่ารอฟ้าฝน แต่ถึงอย่างไรก็ดี หากต่อจากนี้ฝนไม่ตกลงมา ต้นข้าวที่ปลูกในวันนี้ก็อาจจะแห้งเหี่ยวตายได้เช่นเดียวกัน ถือว่ามีความเสี่ยง แต่มันเป็นวิถีของชาวนา ถึงฤดูกาลทำนาก็ต้องทำนา
สถานีอุตุนิยมวิทยา จ.สกลนคร แจ้งว่า ไม่มีอิทธิพลมรสุมเคลื่อนที่เข้ามาในประเทศไทย มีเพียงฝนตกตามฤดูกาลเท่านั้น ซึ่งไม่มาก อาจจะทำให้เกิดภาวะภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงขึ้น หากปีใดที่ไม่มีพายุเคลื่อนผ่านเลยก็จะก่อให้เกิดความแห้งแล้งรุนแรงมากขึ้น อันเนื่องมาจากฝนทิ้งช่วงยาวนาน โดยภัยแล้งที่เกิดขึ้นทุกปีจะอยู่ระหว่าง เดือนมิถุนายนต่อเนื่องถึงเดือนกรกฎาคม ในช่วงดังกล่าวพืชไร่ที่เพาะปลูกจะขาดน้ำ มนุษย์ - สัตว์ขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ ความรุนแรงจะมากหรือน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน เช่น ความชื้นในอากาศ ความชื้นในดิน ระยะเวลาที่เกิดความแห้งแล้ง