ที่เพจเฟซบุ๊ก Army times Thailand เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 ได้ออกเผยข้อความจากใจของนักศึกษาไทย จากประเทศปากีสถาน รายหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มนักศึกษาไทยที่เดินทางมาจากประเทศปากีสถาน ด้วยสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ล่าสุด ได้ขอออกชี้แจงหลังจากได้ถูกจับตามองจากคนไทย ถึงการเดินทางกลับมาครั้งนี้ของพวกเขา ยืนยันได้รับการคัดกรองมาอย่างดีเยี่ยม ทั้งจากทางการของปากีสถาน และสนามบินในประเทศไทย   

ข้อความระบุว่า ไม่ต้องผวาพวกเราหรอกครับ พวกเรากลับมีหนังสือ Fit to fly และหนังสือรับรองจากสถานทูตก่อนจะบินกลับ กลับถูกกฎหมาย และทำตามมาตราการของรัฐบาล และทำตามคณะที่เกี่ยวข้องที่ได้เตรียมไว้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นแหละ ที่รู้ที่มาที่ไปของพวกเราดี ข่าวบางข่าว และเพจบางเพจ เขียนเชิงลบ มีข้อมูลผิดเพี้ยน  
 

ประเทศปากีฯ ยังไม่ได้รุนแรง พอ ๆ กับประเทศไทยนี่แหละ และเมืองที่ผมเรียนอยู่ยังไม่ได้จัดเป็นเมืองที่เสี่ยง หลังจากที่รัฐบาลปากีฯประกาศปิดเมือง Lockdown ทำให้ University ต้องปิดไปด้วย (ปิดยาว) สั่งให้นักศึกษาปากีฯ กลับบ้าน และให้นักศึกษาต่างประเทศ กักตัวอยู่หอพักใน กักตัวก่อนจะบินกลับนานกว่าสองสัปดาห์ ซึ่งมีทีมแพทย์ค่อยเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และมีผู้คุมหอ โดยมีกฎ ห้ามออกไปข้างนอก และคนนอกก็ห้ามเข้า นักศึกษาต้องสวมหน้ากากอนามัย หากต้องการอะไรให้แจ้งผู้คุมหอ แล้วเขาจะจัดมาให้

ก่อนบินกลับที่สนามบินปากีฯ มีการคัดกรอง ตรวจไข้ และตรวจหนังสือ Fit to fry ถ้าใครไม่มีหนังสือนี้ เขาจะไม่ให้เช็คอิน ซึ่งที่ผมเห็นเจ้าหน้าที่เขาตรวจเข้มมาก ๆ มีชาวต่างชาติไม่มีหนังสือ Fit to Fly เข้าไม่ให้เช็คอิน

พอถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก็มีทีมแพทย์ไทยคัดกรองตรวจเข้มมาก ตรวจไข้ ตรวจเอกสาร ใครที่มีอุณหภูมิร่างกายสูง เจ้าหน้าที่ก็จะตรวจอย่างละเอียดอีกที ก่อนจะเข้า ตม. จากนั้นก็มีทีมพี่ ๆ จาก AOT บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) รอรับพวกเราที่ทางออกของสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วไปส่งพวกเราที่สำนักงานบริษัท AOT เพื่อแยกส่งกลับตามจังหวัดต่าง ๆ โดยใช้รถบัส คันละ 20 คน ซึ่งบริษัท AOT พี่ ๆ เจ้าหน้าที่ใจดีทุกคน ขนาดพาพวกเรากลับระหว่างทาง ยังจับดู ติดตาม GPS ว่าคนขับรถบัสได้จอดที่ไหนบ้าง ขับเร็วไหม คือผมจะบอกว่าเขาใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อความปลอดภัย