เมื่อเวลา 05.00 น.เมื่อวันที่ 1 เม.ย.พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป สืบทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดชาวลาวนัดหมายส่งมอบยาเสพติดให้กลุ่มเครือข่ายชาวไทย บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงด้านทิศเหนือพื้นที่บ้านดงโทน หมู่ที่ 4 ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.พิเชต ชมมณฑา สว.กก.3 บก.ป.ร.ต.อ.โกญจนารถ ชาวยามกา รอง สว.ร.ต.อ.ปริญญกรณ์ พยัคฆ์ทอง รอง สว.สนธิกำลังกับ พ.ต.ท.ภาณุภาส ฉ่ำประสิทธิ์ รอง ผกก.ป.พ.ต.ต.ไพบูลย์ พรมมาหล้า สว.อก.ปฏิบัติหน้าที่ สว.สส.สภ.เหล่าหลวง พ.ต.ท.พลสันต์ คมขาว ผบ.ร้อย ตชด.244 ร.อ.คำรณ คุ้มเขต ผบ.ร้อย ทพ.2106 ร.ต.สมอง สุทธิสอน รอง ผบ.ร้อย ทพ.2110 ร.ต.ทศพล พละแสน ผบ.มว.เคลื่อนที่เร็วที่ 3 ร้อย คทร.ที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมกันวางแผนจับกุม

 

กระทั่งได้ยินเสียงเครื่องยนต์เรือวิ่งข้ามน้ำโขงมาจากฝั่ง สปป.ลาว ก่อนถึงริมโขงฝั่งไทยได้ดับเครื่องยนต์ปล่อยให้เรือลอยลำเข้าฝั่ง มีชายฉกรรจ์ 3-4 คนเดินแบกสระสอบขึ้นมาบนฝั่งแล้วางกองไว้อยู่ห่างจากจุดดักซุ่มประมาณ 50 เมตร 1 ใน 4 ได้โทรศัพท์ติดต่อกับเครือข่ายชาวไทยว่ามาถึงฝั่งไทยแล้วให้รีบขับรถมารับของด่วน รอดูสถานการณ์อยู่พักใหญ่ไม่เห็นรถมารับของ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น ทั้ง 4 คน พอได้ยินว่าเป็นเจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งหนีลงไปในเรือที่จอดรออยู่ แต่สามารถตามรวบตัวมาได้ 2 คนทราบชื่อ ท้าวแก้ว มนทา อายุ 44 ปีและท้าวบาน แพงคำดี อายุ 65 ปี ราษฎรบ้านท่าสะอาด เมืองปากกะดิ่ง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว อีก 2 คนสามารถขับเรือหนีกลับไปฝั่ง สปป.ลาวได้ ควบคุมตัวไปค้นดูกระสอบที่แบกขึ้นฝั่งมาจำนวน 3 กระสอบ พบเป็นกัญชาแห้งอัดแท่งรวม 81 แท่งน้ำหนักประมาณ 81 กิโลกรัม โดยท้าวแก้วยอมรับว่าได้รับการว่าจ้างจากท้าวท้าว คนลาวบ้านทุ่งนามี เมืองปากกะดิ่งให้นำกัญชามาส่งให้กลุ่มผู้ค้าชาวไทยจะได้รับค่าจ้างขนคนละ 4,000 บาท 4 คนเป็นเงิน 16,000 บาทจะได้รับเงินก็ต่อเมื่อส่งของถึงมือผู้มารับเสียก่อน เคยทำสำเร็จมาแล้ว 1 ครั้ง อีกอย่างเข้าใจว่า จนท.ไทยติดเคอร์ฟิวไม่ออกมาทำงานกลางคืน จึงถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต นำยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลต่างด้าว (ลาว) เดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ควบคุมตัวพร้อมของกลาง ส่ง พงส.สภ.เหล่าหลวง ดำเนินคดีตามกฎหมาย