สธ. ชวนคนไทยเว้นระยะห่าง "อยู่บ้าน อยู่ห่าง อยู่รอด" หลังข้อมูลชี้ โควิด-19 ติดจากการไปในที่เสี่ยงและอยู่ใกล้ชิดกัน
1 เม.ย. 2563, 15:29
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงผลการศึกษาระบาดวิทยาสุขภาพจิต จากประชาชนกว่า 15,000 คน ที่ทำแบบคัดกรองความกังวลต่อไวรัสโคโรนา 2019 พบส่วนใหญ่ร้อยละ 76 กังวลในระดับบานปลาง มีที่กังวลสูงเพียงร้อยละ 18 สอดคล้องกับการสำรวจ 2 พฤติกรรมสำคัญที่เป็นหัวใจของการหยุดเชื้อคือ 1.การหลีกเลี่ยงไปในที่แออัด ด้วยการ Work from home มีร้อยละ 71 ที่ทำประจำ ทำบ่อยๆ ร้อยละ 24 และทำบ้างไม่ทำบ้างร้อยละ 4 เรื่องที่ 2.การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล Social Distancing ไม่เข้าใกล้ผู้อื่นในระยะ 2 เมตร ที่ทำประจำมีร้อยละ 67 ทำบ่อยๆ ร้อยละ 26 และทำบ้างไม่ทำบ้าง ร้อยละ 5.5
จะเห็นว่าในส่วนของประชาชนที่ทำเป็นประจำทั้ง 2 เรื่องหลักยังไม่มีส่วนใหญ่ที่ถึงร้อยละ 80 สะท้อนว่าความตระหนักและการช่วยกันอย่างจริงจังยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะช่วยลดการแพร่โรคโควิด-19 ได้ ประเทศไทยจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนทั่วประเทศให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 80 ของประชากรทั้งหมด ช่วยกันเว้นระยะห่าง อยู่บ้าน อยู่ห่าง เพื่อให้ไทยอยู่รอด
ด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากรายงานจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ของไทย ขณะนี้พบทั้งหมดเป็นการติดเชื้อจากการนำตัวเองไปใกล้แหล่งเชื้อ หรือใกล้กันคนป่วยมีเชื้อ ดังนั้นเรื่องการเว้นระยะห่างกับทุกคน 2 เมตร จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการรับเชื้อ