เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันที่ 1 เมษายน 2563 ที่ศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห้องสิงขร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ โควิด19 ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมียอดเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 2 ราย รวมเป็น 14 ราย จากเดิมยอดรวมทั้งหมดที่ตรวจพบ 12 ราย ซึ่งใน 14 รายนี้ รักษาหายแล้ว 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย คือรายที่ 13 เป็นชายไทย อายุ 57 ปี ชาวอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส นับถือศาสนาอิสลาม มีประวัติโรคประจำตัวเบาหวาน-ความดัน เสียชีวิตบนรถไฟขณะเดินเข้าห้องน้ำ ขบวนรถไฟสายด่วนที่ 37 ดีเซล 4528 เลขที่นั่ง 28 โบกี้ที่ 4 มีประวัติเดินทางกลับมาจากประเทศปากีสถาน และเดินทางโดยรถไฟจากสถานีบางซื่อ กรุงเทพฯ เพื่อเดินทางกลับไปยังอำเภอสุไหงโก-ลก ระหว่างเดินทางนั้นมีอาการป่วย และอาเจียน แต่แพทย์ได้ทำการตรวจวัดไข้ปรากฏว่าไม่มีไข้ และผู้ป่วยได้ขอยืนยันเดินทางต่อเพื่อกลับบ้านก่อนมาเสียชีวิตที่บริเวณสถานีรถไฟอำเภอทับสะแก และมาตรวจพบว่าได้ป่วยเป็นโรคโควิด-19 ซึ่งทางการรถไฟได้ตัดโบกี้ที่ 4 ออกจากขบวนไว้ที่อำเภอทับสะแกเพื่อทำการฆ่าเชื้อ และให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิต มาตรวจหาเชื้อและกักตัว 14 วัน ส่วนศพผู้เสียชีวิตญาติได้นำไปประกอบพิธีทางศาสนา และฝังกลบตามมาตรฐาน ของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว

 

 

 

ส่วนผู้ป่วยติดเชื้อรายที่ 14 เป็นชายชาวเบลเยี่ยม อายุ 58 ปี เดินทางมาท่องเที่ยวอำเภอหัวหิน และได้เกิดอาการป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ-หัวหิน โดยยอดผู้ป่วยยืนยันทั้งหมดที่พบเป็นการติดเชื้อโควิด-19 มาจากที่อื่นมีประวัติการเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง และติดต่อจากบุคคลใกล้ชิดกลุ่มผู้ป่วยก่อนหน้า ซึ่งยังไม่พบว่ามีการติดต่อกันเองของชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

นอกจากนี้ ได้มอบหมายสั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคโควิด19 อย่างใกล้ชิด กับผู้เป็นคนไทยที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงต่างประเทศ ประกอบด้วยคนไทยที่เดินทางกลับมาจากการประกอบพิธีทางศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซีย 7 คน และกลับมาจากประเทศมาเลเซียอีก 24 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภาพรวมของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวนของผู้ที่ต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการ Home quarantine จำนวน 3753 คน กำลังอยู่ในระหว่างการติดตาม จำนวน 2575 คน และผู้ที่กักตัวครบ 14 วันแล้ว จำนวน 1178 คน/