"วิษณุ" เผยรัฐบาลประเมินผลเคอร์ฟิววันต่อวัน ย้ำไม่ใช่การปิดประเทศ
3 เม.ย. 2563, 17:05
วันนี้ ( 3 เม.ย.63 ) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ของรัฐบาล แบ่งเป็น 3 มาตรการ ได้แก่ มาตรการด้านสาธารณสุข มาตรการด้านเศรษฐกิจเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งในส่วนรัฐบาลจะดูแลในเรื่องของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด โดยหลังรัฐบาลประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ยืนยันว่าประเทศไทยยังไม่ปิดประเทศและปิดสนามบิน คนไทยยังสามารถเดินทางกลับไทยได้ตามสิทธิทางกฎหมายที่ได้ติดต่อประสานตามขั้นตอนไว้ก่อนหน้านี้ แต่ได้มีการเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น โดยล่าสุดได้มีมาตรการขอให้ชะลอการเดินทางเข้าประเทศไทยไปจนถึงวันที่ 15 เมษายนนี้ และเมื่อเข้ามาจะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ส่วนการขนส่งสินค้าออกและนำเข้ายังดำเนินการได้ตามปกติ
สำหรับมาตรการห้ามออกจากเคหะสถาน หรือเคอร์ฟิว ที่จะเริ่มมีผลในวันนี้ 3 เมษายน 2563 ตั้งแต่เวลา 22.00 น. -04.00 น. รวม 6 ชั่วโมงนั้น เบื้องต้นหลังบังคับใช้แล้วจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่าจะเข้มข้นขึ้นหรือไม่ เพราะรัฐบาลตระหนักดีถึงการประกาศห้ามออกเคหะสถาน หรือเคอร์ฟิว จะส่งผลกระทบกับประชาชนบ้าง ดังนั้นจึงมีข้อยกเว้นสำหรับบุคคล 2 ประเภท ได้แก่ บุคคลทั่วไปที่เข้าข้อกำหนดที่วางไว้ เช่น แพทย์ ผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนอีกประเภทคือ บุคคลบางคน หรือบางกลุ่มยกเว้นให้เป็นการเฉพาะ เช่น ผู้ขนส่งสินค้า ขนส่งอาหาร การเงินการธนาคาร ขนส่งหนังสือพิมพ์ และผู้ที่ทำงานเป็นผลัดเวร แต่บุคคลเหล่านี้จะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชน และหนังสือรับรองจากหน่วยงานติดตัวมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ ขณะที่ยกเว้นกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินไม่ต้องมีเอกสารรับรอง ส่วนกลุ่มคนบางประเภท เช่น ผู้ปฏิบัติหน้าที่ซ่อมสายสื่อสาร ประมง สวนยางพารา ในขณะนี้ขอให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านไว้ก่อน
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าเชื้อโรคโควิด -19 สามารถแพร่เชื้อได้ตลอดเวลา แต่เชื่อว่า การประกาศเคอร์ฟิวจะเกิดประโยชน์ในการลดการเดินทางของประชาชนได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง และเจ้าหน้าที่สามารถใช้เวลาช่วงดังกล่าวทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ ได้ ซึ่งในอนาคตเมื่อประชาชนคุ้นชินแล้วอาจขยายเวลาประกาศห้ามออกจากเคหะสถานเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งจะทำให้สามารถลดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
รองนายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงกรณีการประกาศเคอร์ฟิว ของแต่ละจังหวัดที่อาจกำหนดช่วงเวลาต่างกันว่า หากจังหวัดใดผู้ว่าราชการจังหวัดออกคำสั่งเข้มงวดกว่านี้จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งโดยยึดคำสั่งที่เข้มงวดกว่าเป็นหลัก โดยจากนี้ไปรัฐบาลจะพยายามปรับทุกจังหวัดให้เป็นหลักเกณฑ์เดียวกันเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสน สำหรับในส่วนของจังหวัดชายแดนกรณีคนต่างชาติที่ไม่สามารถเดินทางกลับเข้าประเทศของตนเองได้นั้น ได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดสถานที่ที่เป็นเอกเทศเพื่อกักตัวและคัดกรองเป็นเวลา 14 วัน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งเมื่อพ้นกำหนดก็ให้ปล่อยตัวได้